13.00-16.00 น. เสาร์ 17 ธันวาคม 2565 ม.ธรรมศาสตร์ เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด ‘การผลิตอาหารกับสิ่งแวดล้อมในโลกอนาคต’ ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 70 คน โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต (เซียร์รังสิต) จ.ปทุมธานี
ตอน 2 ผมรับใช้ถึงตอนที่บุทมีปัญหากับนักสังเกตการณ์ด้านความมั่นคงของสหประชาชาติชาวเบลเยียม เรื่องการขอความสนับสนุนพิเศษ (ไถ) การรายงานฝ่ายเดียวทำให้บุทไม่รู้และไม่ระมัดระวังตัว ความที่บุทเป็นชาวรัสเซีย จึงไปเข้าทางสหรัฐฯที่กำลังหาเหยื่อเพื่อจะใช้สร้างความหวาดกลัวและความชอบธรรมเพื่อยับยั้งประเทศเล็กชาติน้อยไม่ให้ซื้ออาวุธรัสเซีย เมื่อเล่นระดับรัฐบาลไม่ได้ สหรัฐฯก็เล่นงานบริษัทขนส่งทางอากาศของรัสเซีย
สหรัฐฯกดดันให้มีการดำเนินคดีสนับสนุนการก่อการร้าย แต่อัยการไทยสั่งไม่ฟ้อง เมื่อยกฟ้องแล้วก็ต้องปล่อยตัว แต่ทางสหรัฐฯดันการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาให้ศาลไทยพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาไม่ส่งบุทเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐฯ
ขออนุญาตไม่เขียนถึงพฤติกรรมของอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยท่านหนึ่ง ซึ่งเข้าไปในเรือนจำเพื่อต่อรองให้บุทให้การปรักปรำอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ว่าเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการค้าขายอาวุธ บุทปฏิเสธเพราะไม่รู้จักมักจี่กับอดีตนายกฯ บุทไม่ชอบการเมือง สิ่งที่อยู่ใต้สมองของบุทคือการตระเวนซื้อเครื่องบินเก่าไปโอเวอร์ฮอลเพื่อให้ใช้ในการขนส่งสินค้า ชีวิตของบุทไม่ได้ผ่านอะไรมากมาย จบโรงเรียนทหาร รับราชการ แล้วก็ลาออกมาทำธุรกิจ ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น ตอนที่ถูกจับกุม บุทอายุเพียง 41 ปี ยังเป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์น้อย
บั้นปลายท้ายที่สุด รัฐบาลไทยส่งบุทไปให้สหรัฐฯ มีคนอเมริกันจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการนำบุทมาดำเนินคดี คืนหนึ่งดึกมากแล้ว น่าจะประมาณเที่ยงคืนกว่า กริ่งหน้าบ้านที่ลาดกระบังดังขึ้น ขณะนั้นฝนตกพรำๆ พ่อของผมกางร่มออกมาต้อนรับหัวหน้าสำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซียประจำไทย และอดีตอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ท่านผู้นี้เคยเป็นเบอร์ต้นๆ ในสำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐฯ เคยทำคดีของบุท และรู้เรื่องของบุทละเอียดตั้งแต่ A-Z
...
อดีตอัยการสหรัฐฯท่านนี้ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐฯ ท่านปฏิเสธการสร้างเรื่องปั้นคดีความเพื่อใช้ปกป้องธุรกิจอาวุธของสหรัฐฯ หัวหน้าสำนักข่าวสารของรัฐบาลรัสเซียพาอดีตอัยการอเมริกันท่านนี้มาพบพ่อผมในตอนเที่ยงคืน เพราะท่านต้องขึ้นเครื่องบินกลับสหรัฐฯในตอนเช้า ถ้าไม่เจอกันในราตรีนั้น ก็จะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก ตอนที่ไปบ้านที่ลาดกระบัง ท่านพ้นตำแหน่งแล้ว และหันมาทำงานเป็นที่ปรึกษาองค์การด้านยุติธรรมสากลอะไรสักอย่าง
บุทถูกคุมตัวจากไทยไปสหรัฐฯ ทันทีที่ถึงแผ่นดินอเมริกัน ก็ถูกนำไปขังที่เรือนจำที่เมืองแมริออน ทางภาคใต้ของรัฐอิลลินอยส์ ผู้ใหญ่ฝ่ายรัสเซียพยายามทำเรื่องเพื่อจะเข้าไปเยี่ยมบุท ทว่าส่วนใหญ่ได้รับการปฏิเสธ มีเพียงเพื่อนของพ่อซึ่งมีถิ่นพำนักพักอาศัยอยู่ในไทยมาเป็นเวลานานกว่า 25 ปีที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เข้าไปเยี่ยมได้ 4 วันติดต่อกันเมื่อพฤศจิกายน 2019
เพื่อนของพ่อเข้าไปคุยกับบุทตั้งแต่เวลาแปดโมงเช้า เลิกสามโมงเย็นของทุกวัน ต่อมาภายหลัง หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯอนุญาตให้มีการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์กับเรือนจำ เพื่อนของพ่อจึงสามารถโทร.จากเมืองไทยไปคุยกับบุทได้ตามเวลาที่ทางเรือนจำอนุญาต
หลายคนคิดว่าบุทอาจจะเป็นพวกข่าวกรอง ผมมั่นใจว่าบุทไม่ได้เป็นอะไรพวกนี้ จากภูมิหลังการศึกษาและประสบการณ์ เราพิจารณาว่า บุทยังไม่ถึงขั้นที่จะทำงานการข่าวสากล ในสมองของบุทมีแต่เรื่องทำธุรกิจ แถมยังเป็นคนไม่ชอบความขัดแย้งระหว่างประเทศ
14 ปี 8 เดือน 4 วัน ณ สถานที่คุมขัง ทั้งในไทยและสหรัฐฯ บุทอ่านหนังสือหนัก รักษาสุขภาพและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
วันนี้ บุทอายุ 55 ปีแล้ว
เปิดฟ้าส่องโลกขอให้บุทโชคดี นับแต่บัดนี้ ตราบนิรันดร์.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com