หลังเปิดตัว “เขตการปล่อยมลพิษต่ำสุด” (Ultra Low Emission Zone-ULEZ) คือโครงการที่มุ่งเป้าหมายในการขจัดยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษออกจากท้องถนน ในกรุงลอนดอน อังกฤษ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ล่าสุด มีข่าวว่าชาวลอนดอนอีกหลายล้านคนจะได้สูดอากาศที่สะอาดขึ้น เพราะจะมีการขยายเขตปล่อยมลพิษต่ำสุดออกไปทั่วลอนดอน ซึ่งนาย ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ยืนยันว่า การขยายเขตปล่อยมลพิษต่ำสุด เพื่อทำความสะอาดอากาศที่เป็นพิษของลอนดอนและรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ
นายซาดิก ข่าน เพิ่งประกาศว่า จะขยายเขตการปล่อยมลพิษต่ำสุดทั่วลอนดอน เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม 3 ประการคือ มลพิษทางอากาศ ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ และความแออัด และเพื่อให้แน่ใจว่าชาวลอนดอนอีก 5 ล้านคนจะหายใจได้คล่องกว่าเดิม เพราะมีอากาศที่สะอาดขึ้น ซึ่งการขยายจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 ส.ค.2566 โดยจะดำเนินการครอบคลุมทั่วเขตเมืองของกรุงลอนดอนทั้งหมดไปจนถึงขอบ “เขตการปล่อยมลพิษต่ำ” (Low Emission Zone) ที่มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ การขยายเขตการปล่อยมลพิษต่ำสุดนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2562 ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ภายในถนนวงแหวนรอบในวงเหนือและใต้ของลอนดอนและใจกลางเมือง กฎของมาตรการนี้หลักๆก็คือ ยานพาหนะที่ไม่ผ่านมาตรฐานของยูโรกำหนด หรือรถเก่าที่ก่อมลพิษสูง หากขับขี่เข้าไปในเขตเหล่านี้จะต้องจ่ายค่าบริการรายวัน 12.50 ปอนด์ หรือราว 542 บาท
แม้แผนที่ประกาศมาใหม่จะถูกใจหลายคน แต่ก็กระตุ้นให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรงจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและผู้อยู่อาศัยบางส่วนในเมืองหลวง เมื่อต้นปีนี้โดยบริษัททีเอฟแอล ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบขนส่งต่างๆของลอนดอนได้รับฟังเสียงจากผู้คน 57,913 คน รวมถึงนักรณรงค์เกือบ 12,000 คน จากทั้ง 2 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ พบว่า 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในพื้นที่ของตน แต่ประมาณ 60% ของผู้ที่ตอบสนองต่อการพิจารณาเกี่ยวกับแผนการขยายตัวไม่เห็นด้วย โดย 70% ของผู้อยู่อาศัยในลอนดอนรอบนอกต่อต้านแนวคิดนี้และ 80% ของผู้ทำงานในลอนดอนรอบนอกก็คัดค้าน.
...
ภัค เศารยะ