ทางการเมืองหลานโจวออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังเกิดกรณีเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ เข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ไม่ทัน เพราะมาตรการล็อกดาวน์โควิด จนทำให้เด็กเสียชีวิต

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการท้องถิ่นของเมืองหลานโจว ในมณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ออกมาขอโทษในวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. 2565 หลังเกิดเหตุเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ ป่วยคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ แต่ได้รับการรักษาไม่ทัน เพราะมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 จนสุดท้ายเด็กเสียชีวิต

เมืองหลานโจวถูกล็อกดาวนานานเกือบ 1 เดือนแล้ว ตามนโยบายทำให้โควิดเป็นศูนย์ หรือ ซีโร่โควิด (zero-COVID) อันเข้มงวดของจีน ซึ่งทำให้ประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศถูกกักตัวอยู่กับบ้าน ท่ามกลางข้อครหาเรื่องสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่, อาหารขาดแคลน และการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินเชื่องช้า

ตำรวจท้องถิ่นของเมืองหลานโจวยืนยันการเสียชีวิตของเด็กคนนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุถึงการเข้าถึงการรักษาล่าช้า ก่อนที่ในวันเดียวกันจะมีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงให้เห็น ผู้คนกำลังเร่งทำ CPR เพื่อช่วยชีวิตเด็กคนนี้บนรถสามล้อกระบะเรียบ และมีวิดีโอการประท้วงเล็กๆ เกิดขึ้นในช่วงค่ำด้วย

นายถัว ชื่อเหลย พ่อของเด็กที่เสียชีวิตเปิดเผยบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ราวเที่ยงวันอังคาร ภรรยาของเขาลื่นล้มหลังได้รับผลกระทบจากแก๊สที่ระเหยออกมาระหว่างการทำอาหาร ก่อนจะสังเกตเห็นว่า เหวินเซียน ลูกชายของเขามีอาการไม่ดี เขาจึงพยายามโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล หรือตำรวจ แต่ติดต่อไม่ได้

...

หลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที อาการของเหวินเซียนแย่ลง นายถัวพยายามทำ CPR ซึ่งช่วยได้ในตอนแรก จากนั้นจึงรีบพาลูกชายไปยังทางเข้าอาคารที่อยู่อาศัยของพวกเขาซึ่งถูกล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด แต่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจไม่ให้เขาออกไป และบอกให้นายถัวเรียกเจ้าหน้าที่ใกล้ๆ หรือรถพยาบาลมา

แต่ด้วยความกระวนกระวาย และทนรอรถพยาบาลไม่ไหวอีกต่อไป นายถัวจึงตัวสินใจฝ่ารั้วกั้นออกไปพร้อมกับลูกชาย โดยมีพลเมืองดีช่วยโทรศัพท์เรียกแท็กซี่พาพวกเขาไปส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม แพทย์ช่วยเหวินเซียนเอาไว้ไม่สำเร็จ

“มีสถานการณ์โควิดที่ด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไร เพิกเฉย และหลีกเลี่ยงปัญหา จากนั้นเราก็ถูกขวางที่ด่านตรวจอีกแห่ง” นายถัว วัย 32 ปี บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ผ่านทางโทรศัพท์ “ไม่มีการให้ความช่วยเหลือ เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้ลูกของผมเสียชีวิต” “โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าลูกชายของผมถูกฆาตกรรมทางอ้อม”

ต่อมา ในวันพฤหัสบดี สำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่น ออกแถลงการณ์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เปิดเผยรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็กชายวัย 3 ขวบรายนี้ “เราน้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อและชาวเน็ต และตั้งใจที่จะแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น”

เจ้าหน้าที่เมืองหลานโจว ยอมรับว่า ต้องใช้เวลาถึง 90 นาที ในการส่งรถพยาบาลไปช่วยเหลือ หลังจากพ่อเด็กโทรศัพท์สายด่วนฉุกเฉินหลายครั้ง และพวกเขายืนยันด้วยว่า เกิดการถกเถียงเป็นเวลานานกับเจ้าหน้าที่ที่ทางเข้าออกอาคารที่อยู่อาศัย

“เหตุการณ์นี้เผยให้เห็นการปิดกั้นในกระบวนการช่วยเหลือฉุกเฉิน จุดอ่อนในขีดความสามารถของการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน และความไม่ยืดหยุ่นของเจ้าหน้าที่” แถลงการณ์ระบุ และเสริมด้วยว่า ในท้ายที่สุด นายถัวก็ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจที่จุดตรวจอีกแห่ง ในการเรียกแท็กซี่เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม นายถัว ยืนยันว่า พวกเขาต้องฝ่ารั้วกั้นด่านตรวจออกไป และได้ผู้ที่บังเอิญผ่านมาช่วยเรียกแท็กซี่ให้ นายถัว อ้างอีกว่าหลังเกิดเหตุ เขาได้รับการติดต่อจากบุคคลที่บอกว่าตัวเองเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่เกษียณไปแล้ว เสนอเงินให้ 10,000 หยวน หากเขายอมลงนามข้อตกลงว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ แต่เขาปฏิเสธ