เกาหลีใต้ช็อกโลก เหตุโศกนาฏกรรมในค่ำคืนก่อน วันฮาโลวีนคนเบียดเสียดล้มทับ-เหยียบกันตายในย่านอิแทวอน แหล่งบันเทิงชื่อดังในกรุงโซล ยอดตายพุ่ง 153 ศพ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีผู้บาดเจ็บ-สูญหายอีกเพียบ เบื้องต้น พบสาวไทยจากเพชรบูรณ์เดินทางมาเรียนภาษาตายด้วย 1 คน ด้าน ปธน.เกาหลีใต้สั่งลดธง ครึ่งเสาไว้ทุกข์ 7 วัน พร้อมสั่งเร่งสืบสวนหาสาเหตุ ขณะที่เหล่าผู้นำทั่วโลกร่วมไว้อาลัย แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตาย ส่วนดาราสาว “วิว-วรรณรท” ที่ไปเที่ยวอิแทวอน โพสต์ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง
เกิดเหตุสลดรับเทศกาลปล่อยผีฮาโลวีน ที่เกาหลีใต้ เมื่อผู้คนจำนวนมากเบียดเสียดกันจนขาดอากาศหายใจ ในย่านสถานบันเทิงชื่อดัง “อิแทวอน” ในกรุงโซล เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 153 คน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 22 คน บาดเจ็บอีกเพียบ
คนอัดเข้าซอยแคบจนแน่น
สำนักข่าวยอนฮับเกาหลีใต้ และสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ว่า เหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 22.22 น. วันที่ 29 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 00.22 น. ของวันที่ 30 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย ที่ซอยสถานบันเทิงข้างโรงแรมฮามิลตัน เยื้องกับสถานีรถไฟใต้ดินอิแทวอน โดยคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล แสดงให้เห็นฝูงชนจำนวนมากเบียดเสียดกันแน่นขนัดในซอยแคบๆ มีเสียงร้องตะโกนหายใจไม่ออก ขอความช่วยเหลือ ขณะที่ผู้ชายที่แข็งแรงพยายามปีนกำแพงตึกเอาตัวรอด
...
เบียดเสียดก่อนล้มเป็นโดมิโน่
สภาพที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความโกลาหล สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้บางสำนักระบุว่า สาเหตุที่ผู้คนนับพันแห่กันเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากมีการปล่อยข่าวว่ามีผู้พบเห็นดาราชื่อดัง แต่ต่อมาเกิดการเบียดเสียดยื้อแย่งกัน ส่งผลให้ผู้คนต่างล้มระเนนระนาด และซ้ำร้ายที่ซอยดังกล่าวมีลักษณะเป็นเนิน จุดมรณะคือสามแยก ซอย 27 ตัดกับซอยแคบๆ อีกเส้น โดยซอยที่เกิดเหตุมีความกว้างราว 4 เมตร ฝูงชนจากทุกทิศมุ่งมาจุดเดียวกัน ทั้งจากซอย 19 และรถไฟใต้ดิน มีเพียงทางตะวันออกที่สวนกันได้บ้างแต่แออัดมาก ลักษณะเป็นทางลาด จึงทำให้ผู้ที่เสียหลักล้มลงเป็นโดมิโน่ ส่งผลให้คนถูกทับเป็นชั้นๆ จนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิต หรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีภาพจากคลิปที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บันทึกภาพไว้ เห็นว่าเจ้าหน้าที่รุดเข้าช่วยเหลือ พยายามดึงหญิงรายหนึ่งที่ถูกคลื่นมนุษย์ทับอยู่ แต่ก็ดึงตัวไม่ออกเนื่องจากน้ำหนักของคนที่ล้มทับกันมาเป็นทอดๆ
พลเมืองดีช่วยกันปั๊มหัวใจเหยื่อ
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยในที่เกิดเหตุเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์วายทีเอ็นว่า หลังรุดหน้าถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามกระจายกำลังเข้าช่วยเหลือ แต่ขณะที่กำลังช่วยปั๊มหัวใจ ผายปอดเหยื่อที่หยุดหายใจอยู่นั้น ก็ได้รับรายงานการพบเหยื่อที่หยุดหายใจในลักษณะเดียวกันเข้ามาเรื่อยๆ ไม่หยุด จนสักพักจำนวนเหยื่อมีจำนวนมากเกินกำลังเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ โดยผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่มีอาการเดียวกันคือ ตัวซีดขาว ไม่หายใจ หัวใจหยุดเต้น และเลือดออกจมูก ทำให้มีการร้องขออาสาสมัครที่สามารถทำ CPR ได้ ทำให้มีพลเมืองดีจำนวนมากเข้ามาช่วยเหลือทั้งช่วยผายปอดและปั๊มหัวใจ
ตายพุ่งกว่า 150 ศพ หายอีกเพียบ
ต่อมานายชอย ซอง บอม ผู้อำนวยการดับเพลิงเขตยองซาน ซึ่งดูแลย่านอิแทวอน เปิดเผยว่า ยอด ผู้เสียชีวิต ณ ช่วงเที่ยงวันที่ 30 ต.ค.อยู่ที่ 151 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 19 คน มีทั้งสัญชาติอิหร่าน อุซเบกิสถาน จีน และนอร์เวย์ ผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นชาย 54 คน ผู้หญิง 97 คน เหยื่อส่วนใหญ่มีอายุในช่วงวัย 20 ปี ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 82 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 19 คน นอกจากนี้ ทางการยังได้รับแจ้งความบุคคลสูญหายจากพ่อแม่ญาติพี่น้องที่พยายามตามหาสมาชิกครอบครัวถึง 355 คน ซึ่งเรื่องนี้ทางการจะเร่งยืนยันตัวตนเหยื่อให้เร็วที่สุด เพื่อแจ้งข่าวไปยังสมาชิกครอบครัวเหยื่อต่อไป
ไว้ทุกข์-ลดธงครึ่งเสาทั่ว ปท.
ในเวลาต่อมา นายยุน ซอก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.ถึง 5 พ.ย.เป็นวันไว้ทุกข์และลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศเพื่อไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต รวมถึงมีการตั้งแท่นไว้อาลัยที่ใจกลางกรุงโซล พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อ และสืบสวนหาข้อเท็จจริงของเหตุสลดในครั้งนี้ ขณะเดียวกันเริ่มมีประชาชนนำช่อดอกไม้มาวาง พร้อมข้อความแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ส่วนนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ยังประกาศให้เขตยงซาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของย่านอิแทวอนที่เกิดเหตุ เป็นเขตภัยพิบัติพิเศษที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยและค่าทำศพ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บยังจะได้รับการดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย
...
งดจัดงานรื่นเริงทั้งหมด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ารายการบันเทิง วาไรตี้ ละคร รวมถึงวิทยุต่างๆที่ออกวันนี้ทุกช่อง ต่างงดออกอากาศเพื่อแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏ กรรมที่เกิดขึ้น ขณะที่สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า ค่ายเพลงบิ๊ก ฮิต ประกาศเลื่อนงานเปิดตัวซิงเกิลเดี่ยวดิ แอสโตรนอท ของคิม ซอก จิน หรือ “จิน” สมาชิกวงเคป๊อป “บีทีเอส” ชื่อก้อง คู่กับวงร็อกโคลด์เพลย์จากอังกฤษ ส่วนค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ “เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเมนต์” ของวงเคป๊อปอย่าง “เกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น” “เอ็กโซ” “ซุปเปอร์ จูเนียร์” และ “เอ็นซีที” ประกาศยกเลิกกิจกรรมเทศกาลวันฮาโลวีนทั้งหมด
ยอดตายทะยานเพิ่ม
ช่วงเย็นวันเดียวกัน สำนักข่าวยอนฮับเกาหลีใต้ รายงานอ้างข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมย่านสถานบันเทิงอิแทวอน เพิ่มเป็นอย่างน้อย 153 คน และสาเหตุที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เนื่องจากโครงสร้างทางร่างกาย ประกอบกับน้ำหนักของชุดเทศกาลฮาโลวีน ที่ผู้หญิงจะสวมใส่หนากว่าผู้ชาย นอกจากนี้ ทางการเกาหลีใต้ยังปรับยอดผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติเป็น 22 คน แบ่งเป็นจีน 4 คน อิหร่าน 4 คน รัสเซีย 3 คน ที่เหลือประเทศละ 1 คน ได้แก่สหรัฐฯ ฝรั่งเศส ออสเตรีย นอร์เวย์ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ศรีลังกา ออสเตรเลีย เวียดนาม และประเทศไทย แต่ยังเหลือเหยื่อต่างชาติคนสุดท้ายที่กระบวนการยืนยันตัวตนยังไม่เสร็จสิ้น
ญาติเหยื่อร่ำไห้ระงม
สำนักข่าวยอนฮับเกาหลีใต้ รายงานเพิ่มเติมถึงบรรยากาศในศูนย์ยืนยันตัวตนเหยื่อเคราะห์ร้ายในเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า พ่อแม่และผู้ปกครองจำนวนมากต่างรุดหน้ามาสอบถามข้อมูล เนื่องจากยังไม่สามารถติดต่อบุตรหลานได้ บางรายถึงขั้นสลบคาเก้าอี้และล้มลงไปกองกับพื้นหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของผู้เป็นที่รัก ผู้สื่อข่าวยังเข้าไปสอบถามมารดาวัย 55 ปีเผยชื่อเพียงว่า อัน ที่ระบุว่า ยังไม่เชื่อว่าลูกสาววัย 19 ปีเสียชีวิต และได้เดินทางมาขอคำยืนยันจากทางการ พร้อมเล่าว่าคืนเกิดเหตุ ลูกสาวเพิ่งมาขอเงินเพื่อไปเที่ยวกับแฟนหนุ่ม ที่กำลังจะเข้ารับราชการทหาร แต่ต่อมาแฟนของลูกสาวโทรศัพท์มาร้องไห้ช่วงเวลาเที่ยงคืน บอกว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ถูกฝูงชนทับเป็นเวลากว่าชั่วโมง พยายามช่วยแล้วแต่ดึงเท่าไรก็ไม่สำเร็จ
...
เหตุคนแห่ไปมากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ สำนักข่าวบีบีซีอังกฤษรายงานถึงย่านอิแทวอน ถือเป็นย่านแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนยอดนิยมในกรุงโซล ที่มีทั้งผับ บาร์ ร้านอาหาร และอีกหนึ่งเทศกาลที่ทำให้อิแทวอนถูกจดจำจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ เทศกาลฮาโลวีน ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆปี และปีนี้เป็นปีแรกที่กลับมาจัดแบบเต็มที่ รวมถึงเป็นครั้งแรกหลังจากเกาหลีใต้เริ่มเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้มากขึ้น นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้คนเกาหลีและนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลมาจนคึกคักเป็นพิเศษ จากการประเมินน่าจะมีผู้คนเข้ามาเที่ยวในย่านอิแทวอนในคืนเกิดเหตุกว่า 100,000 คน เหตุครั้งนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งรุนแรงของเกาหลีใต้ในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่เหตุเรือเฟอร์รี่ “เซวอล” อับปางในทะเลระหว่างมุ่งหน้าสู่เกาะเชจู มีผู้เสียชีวิต 304 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนมัธยม
ดันกันไปมาก่อนเกิดเหตุสลด
นอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซีอังกฤษยังรายงานอ้างข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์เกาหลีใต้ อาริรังทีวี ที่อ้างการเปิดเผยของชุดสืบสวนและผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น ระบุว่าเบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่าอะไรเป็น ต้นเหตุทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเบียดเสียดล้มทับกันจนเสียชีวิตจำนวนมาก และข้อเท็จจริงประการหนึ่งคือ ชาวเกาหลีใต้เคยชินกับถนนที่แออัด จึงไม่ตระหนักว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น พร้อมรายงานอ้างบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวในพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าถนนแคบลง และคนเริ่มมากขึ้น แน่นขึ้น จนถึงขั้นเบียดเสียดกัน จากนั้นพอเคลื่อนตัวไปข้างหน้าไม่ได้ คนรอบๆตัวเริ่มที่จะดันฝูงชนไปข้างหน้า หลายคนดันและผลักกันแบบหัวเราะขบขัน แต่พอผ่านไปสักพักมีแรงดันกลับมามากขึ้น รุนแรงมากขึ้น ทำให้ตัดสินใจว่าต้องเอาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้ได้เพราะเหตุการณ์เริ่มจะผิดปกติ จำได้ว่าตอนหลุดมาได้รู้สึกขาสั่นอ่อนล้าไปทั้งตัว จากนั้นพอได้ยินเสียงรถพยาบาลต่อเนื่อง จึงรู้ว่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว
...
ส่อตายเพิ่มหลังเจ็บสาหัสพุ่ง
ต่อมา ช่วงค่ำวันเดียวกัน สำนักข่าวยอนฮับ เกาหลีใต้ รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกาหลี ใต้ ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายในย่านสถานบันเทิงอิแทวอน อยู่ที่ 153 ศพ และอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากถึง 37 คน จากเดิมมีไม่ถึง 20 คน ขณะที่ ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นทางการเพิ่มเป็น 133 คน ทั้งนี้ ตำรวจยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิต พร้อมแจ้งข่าวแก่ ครอบครัวแล้ว 141 คน สำหรับผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นเหยื่อ อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 4 คน อายุ 20 ปีขึ้นไป 95 คน อายุ 30 ปีขึ้นไป 32 คน อายุ 40 ปีขึ้นไป 9 คน พร้อมระบุด้วยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุมีเหยื่อเคราะห์ร้ายที่จำเป็นต้องได้รับการผายปอดและปั๊มหัวใจมากถึง 300 คน.
คนไทยดับ 1 เซ่นอิแทวอน
วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ออกประกาศผ่านเฟซบุ๊กของสถานทูต ว่าเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ต.ค.2565 ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในงานเทศกาลวันฮาโลวีน ที่จัดขึ้นในย่านถนนอิแทวอน กรุงโซล ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเบียดกันแน่น ล้มและเหยียบกัน รวมทั้งขาดอากาศหายใจ (stampede) โดยเฉพาะบริเวณซอยแคบทางลงถนนหลักบริเวณโรงแรม Hamilton ซึ่งล่าสุดเช้าวันที่ 30 ต.ค.2565 มีรายงานยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 151 คน และได้รับบาดเจ็บ 82 คน ล่าสุด สถานเอก อัครราชทูตฯได้รับรายงานจากตำรวจเกาหลีใต้ด้วยความเสียใจเป็นอย่างยิ่งว่า มีคนไทย 1 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางการเกาหลีใต้เพื่อสอบถามรายละเอียด และแจ้งให้ญาติของผู้เสียชีวิตรับทราบ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในการจัดการศพผู้เสียชีวิตต่อไป
แจ้งครอบครัวผู้ตายแล้ว
ด้าน นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเกี่ยวกับกรณีมีคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เมื่อตอนบ่ายวันที่ 30 ต.ค. ว่า เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในงานเทศกาลคืนวันฮาโลวีน ที่จัดขึ้นในย่านถนน อิแทวอน กรุงโซล ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเบียดกันแน่น ล้มและเหยียบกัน รวมทั้งขาดอากาศหายใจ โดยเฉพาะบริเวณซอยแคบทางลงถนนหลัก บริเวณโรงแรมฮามิลตัน ซึ่งมีรายงานยืนยันว่ามีคนไทย 1 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นสุภาพสตรี อายุ 27 ปี ที่เดินทางมาเรียนภาษาที่เกาหลีใต้ สถานเอกอัครราชทูตฯได้แจ้งให้ญาติของผู้เสียชีวิตรับทราบ พร้อมทั้งจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือจัดการศพผู้เสียชีวิตต่อไป ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และกระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียดังกล่าว และแนะนำให้คนไทยในเกาหลีใต้หลีกเลี่ยงการเดินทางออกไปท่องเที่ยวในงานฉลองที่อาจจะมีความหนาแน่นในช่วงเวลานี้ หากคนไทยท่านใดต้องการตรวจสอบเกี่ยวกับคนสูญหาย หรือต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 010-6747-0095 และ 010-3099-2955 ได้ตลอดเวลา
เป็นหญิงไทยอยู่เพชรบูรณ์
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการเปิดเผยจากกลุ่มนักเรียนไทยในกรุงโซลว่า มีนักเรียนไทยโพสต์ทางทวิตเตอร์ว่ามีคนไทยเสียชีวิต 1 คน สูญหาย 1 คน ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ได้ทำการตรวจสอบจนทราบว่าผู้ตายเป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี เป็นนักศึกษาไปเรียนภาษาที่เกาหลีใต้ โดยยื่นวีซ่าไปเรียนถูกต้อง ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงแจ้งให้ทางตำรวจเกาหลีใต้ตรวจสอบ จนกระทั่งทางตำรวจเกาหลีใต้ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลและทราบแน่ชัดว่าคนไทยดังกล่าวเสียชีวิตจริง จึงได้แจ้งให้ทางสถานเอกอัครราชทูตฯทราบเป็นการยืนยัน ทางสถานเอกอัครราชทูตฯจึงได้ประสานกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุลติดต่อแจ้งให้ญาติที่เมืองไทยทราบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเรื่องการจัดการศพ สำหรับหญิงไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อนนักเรียนด้วยกัน เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจากทางสถานเอกอัคร ราชทูตฯ ณ กรุงโซล ว่า ได้แจ้งการเสียชีวิตให้ทาง ญาติผู้ตายทราบแล้ว และทางญาติได้แจ้งว่าไม่ประสงค์จะให้เปิดเผยชื่อ ทางเพื่อนๆทราบเพียงว่าอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนที่มีการแจ้งสูญหายอีก 1 คน ล่าสุดพบตัวแล้ว
ผู้นำโลกร่วมไว้อาลัย
สำหรับปฏิกิริยาจากทั่วโลก หลังเหตุโศกนาฏกรรม อิแทวอน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตลอดวัน มีผู้นำประเทศต่างๆ ออกมาแสดงความเสียใจและส่งสาส์นไว้อาลัยต่อรัฐบาลเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง โดยนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสาส์นแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่สูญเสียผู้เป็นที่รักยิ่ง และขอส่งกำลังใจให้ผู้บาดเจ็บหายดีโดยเร็ว สหรัฐฯขอยืนเคียงข้างเกาหลีใต้ในช่วงเวลาแห่งโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่วนนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ออกมาแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต และขอเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ช่วยดูแลชาวจีนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ เช่นเดียวกับนายอันเดรส มานูเอล ประธานาธิบดีเม็กซิโก นายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตเช่นดียวกัน
นายกฯไทยร่วมเสียใจ
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เสียใจกับเหตุการณ์ย่านอิแทวอน ประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์หากมีคนไทยได้รับความเดือดร้อนให้รีบให้การช่วยเหลือโดยด่วน โดยหากคนไทยท่านใดต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล สามารถติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 010-6747-0095
“ประวิตร” เสียใจกับชาวเกาหลีใต้
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก รัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงโศกนาฏกรรมที่ย่านอิแทวอนเช่นกันว่าตนขอเป็นตัวแทนประชาชนคนไทยทุกคนแสดงความเสียใจกับชาวเกาหลีใต้ทุกคน รวมถึงครอบครัวคนไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และขอส่งความห่วงใยไปยังทุกคนที่ได้รับผลกระทบ นับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ประเทศไทยขออยู่เคียงข้างให้กำลังใจกับทุกครอบครัว
นักเตะโสมส่งกำลังใจสู่บ้านเกิด
ขณะที่ซน เฮือง มิน ดาวเตะเลือดโสม ที่ค้าแข้ง อยู่กับทีม “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ยักษ์ใหญ่แห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเพิ่งพาทีมบุกไปคว้าชัยชนะเหนือบอร์นมัธแบบปาฏิหาริย์ 3-2 ในคืนวันเดียวกัน ได้่โพสต์ภาพตัวเองกำลังเปิดลูกเตะมุมเป็นรูปขาวดำในอินสตาแกรมของตัวเองเพื่อแสดงความไว้อาลัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเกิด พร้อมกับข้อความที่ว่า “ขอบคุณแฟนๆสเปอร์ส ที่สนับสนุนเชียร์เราในวันนี้ เราคว้าชัย ชนะได้เพราะพวกคุณ แต่ผมขอส่งกำลังใจทั้งหมด ไปที่เกาหลีใต้ ผมใจสลายทันทีที่รู้ข่าว ผมอยากให้ทุกคนที่เกาหลีใต้ได้รู้ว่า ผมเสียใจกับพวกคุณทุกคน และขอให้ทุกคนเข้มแข็ง ด้านต้นสังกัดของเขาอย่าง สเปอร์ส ก็โพสต์ในทวิตเตอร์สโมสร ด้วยข้อความว่า “เราเสียใจอย่างสุดซึ้งกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ เราขอส่งใจให้พวกคุณ”
สถานทูตเกาหลีในไทยลดธงครึ่งเสา
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ชี้แจงว่า ขอให้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุอันไม่คาดฝันที่ย่านอิแทวอน กรุงโซล ในวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาไปสู่สุคติและขออธิษฐานให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นฟูร่างกายได้โดยเร็ว ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัวและมิตรสหาย รัฐบาลเกาหลีได้กำหนดให้วันนี้ถึงวันที่ 5 พ.ย.เป็นช่วงไว้ทุกข์ของชาติ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขอุบัติเหตุในครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯจะลดธงครึ่งเสาในช่วงไว้ทุกข์ของชาติเพื่อรำลึกถึงผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
“วิว” ปลอดภัยเหตุอยู่คนละซอย
ในส่วนของคนบันเทิงที่เดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ และไปร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีน ที่อิแทวอน โดยหนึ่งในนั้นได้แก่ วิว-วรรณรท สนธิไชย ซึ่งต่อมา วิว เปิดใจข้ามประเทศยืนยันตอนนี้ปลอดภัยดี ขอบคุณทุกความห่วงใยที่ทุกคนส่งให้ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตนไปถึงร้านย่านอิแทวอน เวลาประมาณ 21.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้) ยังเดินเข้าไปได้ยิ่งดึกนักท่องเที่ยวยิ่งเข้ามา โดยร้านอาหารที่ตนนั่ง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 200 เมตร แต่อยู่คนละซอย ซึ่งตนไม่ได้ออกไปเดินที่ไหน หลังจากนั้นเวลาเกือบ 22.00 น.เริ่มมีเจ้าหน้าที่เข้าไปหามคนบาดเจ็บ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งภายในร้านที่ตนนั่งอยู่ว่าปิดการเข้า “อิแทวอน” เนื่องจากมีเหตุฉุกเฉินและมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น ในเวลานั้นสังเกตเห็นว่าด้านนอกมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ไม่เห็นเหตุการณ์ว่ามีคนบาดเจ็บอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งตนออกไปไหนไม่ได้เพราะทางร้านให้ทุกคนอยู่ในร้าน และได้ออกจากร้านได้ในเวลาประมาณตี 1 ซึ่งเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่เริ่มคุมสถาน การณ์ได้แล้ว แต่ตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่มีคนเจ็บหรือคนเสียชีวิตอยู่ในบริเวณนั้น มาทราบข่าวเมื่อกลับถึงโรงแรมและติดตามข่าวผ่านทางโซเชียล
เสียใจกับญาติผู้ตาย
“วิว” ระบุด้วยว่า ส่วนตัวแล้วมาเที่ยวในช่วงเทศกาลนี้ที่อิแทวอนหลายครั้ง ปีนี้เยอะกว่าทุกๆปี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิด ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกท่าน และขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้ว
“บี-ปิยวรรณ” โพสต์ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ในช่วงก่อนเกิดเหตุไม่นาน อดีตพิธีกรสาว “บี-ปิยวรรณ สารสิน” ภรรยาของ “พาที สารสิน” ซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ โพสต์รูปกับเพื่อนๆ ในงานฮาโลวีนพร้อมแคปชันว่า “Halloween night in itaewon!!! #ป้าพาไป ไปคะ ไปฟีล อิแทวอน” โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวได้โพสต์แจ้งว่า “ออกจากอิแทวอนแล้วค่ะ ปลอดภัยดีกับแม่ๆอีก 5 คน กะลังจะกลับโรงแรมแล้ว ไม่ต้องห่วงค่ะ” และต่อมา บี-ปิยวรรณได้โพสต์ไอจีขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความความห่วงใยที่มาจากทุกช่องทาง FB, IG, Twitter, Line, What’s app หรือโทร.มาถามไถ่ โดยระบุว่าพวกเราปลอดภัยดี แต่บอกเลยว่ามันอันตรายจริงๆ เพราะคนเยอะมากๆ ตอนเกิดเหตุรถพยาบาลและรถตำรวจเข้ามาตลอด เราใช้เวลาออกจากอิแทวอน 2 ชั่วโมงกว่า ด้วยการเดินเท้า เพราะถนนถูกบล็อกหมด และเดินทางกลับโรงแรมอย่างปลอดภัย ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขนาดนี้ขึ้น ขอแสดงความเสียใจกับทุกชีวิตที่สูญเสียและบาดเจ็บเมื่อคืนด้วยค่ะ My Deepest condolences..
สาวไทยเล่าเห็นคนกระอักเลือด
ขณะเดียวกัน มีสาวไทยใช้ชื่อว่า Jessi Jassicah ระบุผ่านเฟซบุ๊กเล่านาทีเกิดเหตุว่า ก่อนมางาน ได้จองโต๊ะในร้านแห่งหนึ่งราคา 4 ล้านวอน ซึ่งเธอระบุว่า มันคุ้มกับชีวิต แม้จะไม่ได้กิน แต่รอดเพราะได้นั่งในร้านที่จองโต๊ะไว้ เพราะมุมนี้บริเวณหน้าร้านมีคนเสียชีวิตไปราว 50 คนได้ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ระบุว่า ได้ถึงที่พักอย่างปลอดภัย เมื่อมาถึงที่พักเธอได้โพสต์คลิปเล่าให้ฟังอีกครั้งว่า “เปิดแชมเปญขวดแรกปุ๊บ เสียงกรี๊ดมาเลย เราหันไปดูเห็นคนล้มเป็นโดมิโนเลย ตรงที่ตนอยู่เป็น 3 แยกที่ทุกคนจะมาจากทุกแยก ตนนั่งอยู่ตรง 3 แยกพอดี ทุกคนตะเกียกตะกายกันพยายามปืนขึ้นมาในร้านที่ตนนั่งอยู่ การ์ดร้านก็เข้ามาเหวี่ยงคนที่พยายามปีนขึ้นมาออกไป ตนก็ทำอะไรไม่ได้ ออกจากร้านไม่ได้เช่นกัน มันช็อกมาก ที่เห็นคนกระอักเลือดต่อหน้า ตนเที่ยวมา 4-5 ปีไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน”