นานมาแล้วที่เราต่างเคยท่องจำชื่อของดวงดาวแต่ละดวงในระบบสุริยะ ซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์แม่ และมีดาวเคราะห์ 9 ดวงโคจรรอบ นับเรียงจากชั้นในสุดไปจนถึงขอบสุริยะคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และดาวพลูโต จนกระทั่งสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลพิจารณาว่าดาวพลูโตไม่ผ่านคุณสมบัติของการเป็นดาวเคราะห์ในปี พ.ศ.2549
เหตุผลที่ดาวพลูโตไม่ได้รับสิทธิ์เป็นดาวเคราะห์อีกต่อไป เนื่องจากในปี 2549 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลโหวตคำจำกัดความของ “ดาวเคราะห์” ให้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนด 3 ประการ คือ 1.โคจรรอบดวงอาทิตย์ 2.มีมวลมากจนเกือบเป็นทรงกลม และ 3.สามารถกวาดวัตถุอวกาศในพื้นที่ใกล้เคียงรอบวงโคจรได้ ซึ่งดาวพลูโตไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ 3 เพราะไม่ได้ครอบงำด้วยแรงโน้มถ่วง นั่นจึงหมายความว่าดาวพลูโตจัดเป็นดาวเคราะห์แคระมากกว่า ดังนั้น ระบบสุริยะที่เรารู้กันจนถึงทุกวันนี้จึงเหลือดาวเคราะห์ 8 ดวง ส่วนดาวเคราะห์ 9 ที่นักดาราศาสตร์หลายคนเชื่อว่ามีนั้น ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องตามหาต่อไปว่าดาวลึกลับดวงนั้นซ่อนอยู่ตรงไหนกันแน่
เมื่อดาวพลูโตถูกลดชั้นไปเป็นดาวเคราะห์แคระ ก็ใช่ว่าจะเป็นดาวเคราะห์แคระเพียงดวงเดียวในระบบสุริยะ เพราะขณะนี้มีดาวเคราะห์แคระที่รู้จักกันอยู่ 5 ดวงในระบบสุริยะของเรา เรียงตามลำดับความใกล้กับโลกมากที่สุด เริ่มจาก ซีรีส์ ตั้งอยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดีซึ่งค้นพบในปี พ.ศ.2344, ดาวพลูโต ตั้งอยู่ในแถบไคเปอร์ ค้นพบในปี พ.ศ.2473, อีริส ตั้งอยู่ในแถบไคเปอร์ ค้นพบในปี พ.ศ.2546, มาคีมาคี ตั้งอยู่ในแถบไคเปอร์ ค้นพบในปี พ.ศ.2548 และ เฮาเมอา ตั้งอยู่ในแถบไคเปอร์ ค้นพบในปี พ.ศ.2546.
Credit : NASA/APL/SwRI
...