- สหรัฐฯประกาศก้องโลก ส่งโดรนยิงมิสไซล์เด็ดชีพ อัยมาน อัลซาวาฮิรี หัวหน้ากลุ่มอัลเคดา ในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถาน หลังพยายามตามล่ามานานหลายปี
- ผู้เชี่ยวชาญคาด ขีปนาวุธที่สหรัฐฯใช้ในปฏิบัติการสังหารอัลซาวาฮิรีในครั้งนี้ เป็นขีปนาวุธเฮลไฟร์ R9X มีลักษณะเด่น อยู่ที่เป็นขีปนาวุธติดใบพัด 6 ใบ สามารถบินไปสังหารเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จนไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย
- เชื่อซีไอเอ ส่งสายลับเฝ้าติดตามดูลักษณะนิสัยของอัลซาวาฮิรีมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จนมั่นใจว่าชอบออกมาที่ระเบียงบ้านหลังเสร็จจากการละหมาดตอนเช้า ก่อนจะส่งโดรนไปยิงขีปนาวุธปลิดชีพได้สำเร็จ
ปฏิบัติการเด็ดชีพนายอัยมาน อัลซาวาฮิรี ผู้นำกลุ่มอัลเคดาโดยสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงให้กับชาวโลกอีกครั้ง เมื่อได้เห็นชะตากรรมของอัลซาวาฮิรี มีบทจบไม่ได้แตกต่างไปจาก โอซามา บินลาเดน อดีตหัวหน้าอัลเคดา กลุ่มก่อการร้ายหมายเลขหนึ่งของโลก ที่ก่อเหตุวินาศกรรม 9/11
...
11 ปี ผ่านไป หลังบินลาเดนถูกหน่วยซีลของสหรัฐฯ บุกปลิดชีพที่ปากีสถานในปี 2554 ทำให้อัลซาวาฮิรี ซึ่งเคยเป็น ‘มือขวา’ ของบิน ลาเดน ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มอัลเคดาคนใหม่แทน และในที่สุด อัลซาวาฮิรี ก็ได้ถูกสหรัฐฯนำทีมโดยสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ส่งโดรนไปสังหารได้สำเร็จ เมื่อ 31 ก.ค. 2565 ขณะหลบซ่อนอยู่ที่ ‘เซฟเฮาส์’ บ้านพักในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน หลังจากอัลซาวาฮิรีพยายามหลบหนีจากการถูกสหรัฐฯ ตามไล่ล่ามานานหลายปีในฐานะเป็นผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐฯต้องการตัวมากที่สุด
อะไรคืออาวุธที่มีความแม่นยำสูงของสหรัฐฯ ที่ใช้สังหารอัลซาวาฮิรี? กลายเป็นคำถามที่เกิดขึ้นตามมา เนื่องจากอัลซาวาฮิรี อดีตจักษุแพทย์ วัย 71 ปี ถูกเด็ดชีพ ขณะเดินออกมาที่ระเบียงบ้านในกรุงคาบูล เมื่อเวลา 06.18 น.ตามเวลาท้องถิ่น หลังเสร็จจากละหมาด ในช่วงเช้า โดยที่ภรรยาและลูกสาวซึ่งอยู่ในบ้านไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
คาดยิงมิสไซล์ติดใบพัด ‘เฮลไฟร์ R9X’ ปลิดชีพ
ซีเอไอแถลงข่าวยืนยันการสังหารอัลซาวาฮิรีว่า สหรัฐฯได้ส่งโดรนยิงมิสไซล์ หรือขีปนาวุธ 2 ลูกมาสังหารอัลซาวาฮิรี หัวหน้ากลุ่มอัลเคดา บริเวณระเบียงบ้าน โดยไม่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต จนถือเป็นปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในอัฟกานิสถานของสหรัฐฯในรอบ 11 ปี
ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์ว่า ขีปนาวุธที่สหรัฐฯใช้ในการสังหารอัลซาวาฮิรี และสร้างความเสียหายบริเวณตรงกลางของระเบียงบ้าน น่าจะเป็น ขีปนาวุธเฮลไฟร์ R9X (Hellfires R9X) ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่ไม่มีการติดตั้งหัวรบ จึงไม่เกิดการระเบิด ทำให้คนผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆ เสียชีวิตไปด้วย
...
อีกทั้ง ขีปนาวุธ เฮลไฟร์ R9X มีลักษณะเด่น อยู่ที่มีการติดใบพัด 6 ใบ ที่แหลมคม พุ่งเป้าไปสังหารเป้าหมายได้อย่างแม่นยำเด็ดขาด!!
มิสไซล์เฮลไฟร์ สามารถถูกยิงได้จากแพลตฟอร์มที่หลากหลาย รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ รถยนต์, เรือ และเครื่องบิน ซึ่งในกรณีการปลิดชีพอัลซาวาฮิรี ขีปนาวุธเฮลไฟร์ถูกยิงมาจากโดรน
สหรัฐฯ เคยใช้ขีปนาวุธเฮลไฟร์ปลิดชีพเป้าหมายสำคัญมาหลายครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า สหรัฐฯได้ใช้ขีปนาวุธเฮลไฟร์ในการยิงสังหารนายพลคาเซม โซไลมานี่ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษชั้นหัวกะทิของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่าน ที่กรุงแบกแดด เมื่อต้นปี 2563 รวมทั้งการสังหาร สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอซิส ที่เกิดในอังกฤษ ซึ่งรู้จักในชื่อ ‘ญิฮาด จอห์น’ ที่ประเทศซีเรีย เมื่อปี 2558
สำหรับหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สหรัฐฯใช้ขีปนาวุธเฮลไฟร์หลายครั้งในการปลิดชีพเป้าหมายสำคัญ เป็นเพราะมีความแม่นยำสูง ซึ่งบางทีการปลิดชีพเป้าหมาย สามารถทำได้จากการนั่งอยู่ในห้องควบคุมติดแอร์ที่อยู่ไกลจากทวีปอเมริกา ผ่านการดูเป้าหมายแบบไลฟ์สดทางวิดีโอ โดยกล้องที่ติดอยู่บนโดรนจะส่งข้อมูลผ่านทางดาวเทียมมายังห้องควบคุม
...
อีกทั้งกล้องที่โดรนก็สามารถล็อกเป้าหมายและชี้เป้าด้วยเลเซอร์ และทันทีที่มีการยิงมิสไซล์ออกไป ก็สามารถติดตามด้วยเลเซอร์ จนกว่ามิสไซล์บินไปโจมตีถึงเป้าหมาย
รวบรวมข่าวกรองได้มากพอ ก่อนลงมือปลิดชีพอัลซาวาฮิรี
...
สำหรับรายละเอียดต่างๆ ในการสังหารอัลซาวาฮิรี คาดว่าสหรัฐฯได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านข่าวกรอง ก่อนจะลงมือปลิดชีพซาวาฮิรีที่กรุงคาบูล
ภายหลังเด็ดชีพอัลซาวาฮิรีแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเปิดเผยว่า สหรัฐฯมีข้อมูลอย่างเพียงพอที่จะเข้าใจรูปแบบการใช้ชีวิตของซาวาฮิรีที่บ้านหลังดังกล่าว อย่างเช่น นิสัยในการชอบออกมาที่ระเบียง
ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สายลับของสหรัฐฯได้ติดตามเฝ้าดูนิสัยของซาวาฮิรีมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ไม่ใช่หลายเดือน
Marc Polymeropoulos อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ซีไอเอ กล่าวกับบีบีซีว่า ดูเหมือนมีการใช้วิธีการรวบรวมข่าวกรองที่หลากหลาย ก่อนลงมือจะโจมตีสังหารซาวาฮิรี รวมทั้งการใช้สปาย หรือสายลับทางภาคพื้นดิน และข่าวกรองทางสัญญาณ ซึ่งเป็นการรวบรวมข่าวจากการส่งสัญญาณต่างๆ เช่น ระบบโทรคมนาคม ระบบเรดาร์
เผยสหรัฐฯ ส่งสปายเฝ้าติดตามนิสัยซาวาฮิรี ก่อนลงมือ
ด้านบิลล์ ร็อกกิโอ นักวิชาการอาวุโสที่มูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย (Foundation for Defence of Democracies) ซึ่งติดตามการใช้โดรนโจมตีเป้าหมายของสหรัฐฯ มาเป็นเวลาหลายปี ชี้ว่าการเด็ดชีพอัลซาวาฮิรี ดูเหมือนมีความยากมากกว่าการสังหารเป้าหมายสำคัญของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้
เพราะที่ผ่านมา สหรัฐฯส่งโดรนโจมตีเป้าหมายในปากีสถาน จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอัฟกานิสถาน หรือการโจมตีเป้าหมายในซีเรีย ด้วยการส่งโดรนจากอิรัก
แต่ความยากลำบากในการสังหารอัลซาวาฮิรีคราวนี้ มีความซับซ้อนยากมากขึ้น เพราะถือเป็นการโจมตีเป้าหมายอัลเดคา หรือไอซิส ในอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่สหรัฐฯถอนกำลังทหารอเมริกันออกจากอัฟกานิสถานไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ.
เรียบเรียงโดย : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์