โจ ไบเดน ลงนามคำสั่งพิเศษประธานาธิบดี คุ้มครองสิทธิ์การเข้าถึงการทำแท้งและการคุ้มกำเนิด ไม่ให้ลงโทษสตรีที่เดินทางไปทำแท้งที่รัฐอื่น หลังศาลสูงสุดคว่ำคำตัดสินคดีโรกับเวด

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร (executive order) ฉบับใหม่ ในวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิ์การทำแท้งของผู้หญิงในประเทศ หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ศาลสูงสุดมีคำสั่งคว่ำคำตัดสินคดีโรกับเวด เมื่อ 49 ปีก่อน ที่เคยให้สิทธิสตรีในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญ

นายไบเดนกล่าวว่า คำสั่งนี้จะคุ้มครองการเข้าถึงบริการทำแท้งทางการแพทย์และการคุมกำเนิด คุ้มครองผู้หญิงจากการถูกลงโทษกรณีเดินทางข้ามรัฐเพื่อไปทำแท้ง ปกป้องความเป็นส่วนตัวของคนไข้และตั้งทีมเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงาน เพื่อใช้ทุกเครื่องมือของรัฐบาลกลางที่ใช้ได้ เพื่อปกป้องการเข้าถึงประกันสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์

นอกจากนั้น คำสั่งนี้ยังเพิ่มความพยายามในการให้การศึกษาแก่สังคม และส่งเสริมความมั่นคงและตัวเลือกทางกฎหมายให้แก่เหล่าผู้ที่ตามหาและให้บริการทำแท้ง ไบเดนยังยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เขากังวลว่าจะเกิดขึ้นได้หากมีการห้ามทำแท้ง

“คนไข้คนหนึ่งเข้ามาในห้องฉุกเฉินในรัฐใดก็ตามที่ห้ามทำแท้ง แล้วเธอกำลังเผชิญการแท้งลูกที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หมอกลับต้องกังวลว่าการรักษาเธอจะเป็นความผิดอาญามั้ย พวกเขาจึงเลื่อนการรักษาออกไปเพื่อโทรหาทนายของโรงพยาบาล ซึ่งก็กลับว่าทางโรงพยาบาลอาจถูกลงโทษหากหมอให้การรักษาเพื่อช่วยชีวิตคนไข้”

“นี่เป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจ ผมไม่สนหรอกว่าฐานะของคุณคืออะไร มันน่าเจ็บใจและอันตราย” ไบเดนกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี และนายเซเวียร์ เบเซอร์รา เลขาธิการฝ่ายบริการมนุษย์และสุขภาพ

...

ทั้งนี้ หลังศาลสูงสุดมีคำตัดสินดังกล่าว ทำให้ประธานาธิบดีไม่มีมาตรการใดที่ใช้ได้เพื่อฟื้นฟูสิทธิ์การทำแท้งทั่วประเทศ และนายไบเดนก็ยอมรับว่า ตัวเลือกในการขยายการเข้าถึงการทำแท้งของเขานั้นมีจำกัดถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสภา อย่างไรก็ตาม เขาถึงกดดันอย่างหนักให้แสดงจุดยืนเรื่องการทำแท้งมากขึ้น ทำให้เขาตัดสินใจออกคำสั่งพิเศษในครั้งนี้