ทูตรัสเซียในสำนักงานสหประชาชาติที่นครเจนีวา ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจการทำสงครามอย่างก้าวร้าวในยูเครน ตามคำสั่งของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน

สำนักข่าว อัลจาซีรา รายงานว่า นายบอริส บอนดาเรฟ ผู้ทำงานเป็นที่ปรึกษาภารกิจถาวรของรัสเซียในสำนักงานสหประชาชาติ ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 พ.ค. 2565) เขาเดินทางไปยังสำนักงานตามปกติในช่วงเช้า ก่อนจะยื่นหนังสือลาออกและเดินจากมา

ตามแถลงการณ์ของนายบอนดาเรฟ เขาประณามการรุกรานยูเครนและแสดงความไม่พอใจต่อกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย “ตลอด 20 ปีในอาชีพนักการทูตของผม ผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในนโยบายต่างประเทศที่แตกต่างกันของเรา แต่ไม่เคยรู้สึกอับอายในประเทศของตัวเองเท่ากับเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีนี้มาก่อน” สื่อถึงวันที่รัสเซียเริ่มโจมตียูเครน

“การเริ่มทำสงครามรุกรานต่อยูเครนโดยปูติน และซึ่งในข้อเท็จจริงคือการทำสงครามกับทั้งโลกตะวันตก ไม่เพียงเป็นอาชญากรรมต่อชาวยูเครนเท่านั้น แต่อาจเป็นการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดต่อชาวรัสเซียเองก็เป็นได้”

ทั้งนี้ นายบอนดาเรฟ วัย 41 ปี ระบุว่าตนเองทำงานกับกระทรวงต่างประเทศรัสเซียมานานร่วม 2 ทศวรรษ และทำงานเป็นที่ปรึกษาให้คณะผู้แทนรัสเซียในเจนีวาตั้งแต่ปี 2562 เขายังวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนร่วมงานที่ยอมรับการทำสงครามกับยูเครนว่า ต้องการรักษาอำนาจเอาไว้

“ในการทำงาน 18 ปี ผมเปลี่ยนจากการเป็นมืออาชีพและผู้ได้รับการศึกษา ซึ่งเพื่อนร่วมงานหลายคนของผมให้การนับถือ ไปเป็นคนที่เผยแพร่แถลงการณ์สร้างความแตกแยกและข่มขู่โลก (และชาวรัสเซีย) ด้วยอาวุธนิวเคลียร์” นายบอนดาเรฟระบุว่า “วันนี้ กระทรวงต่างประเทศไม่ใช่เรื่องการทูตแล้ว มันมีแต่เรื่องการกระหายสงคราม, คำโกหก และความเกลียดชัง”

...

ด้านนาย ฮิลเลล นิวอร์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กร UN Watch ซึ่งคอยติดตามการทำงานของสหประชาชาติ ออกมาชื่นชมการตัดสินใจของนายบอนดาเรฟ และเรียกร้องให้นักการทูตรัสเซียในสหประชาชาติคนอื่นๆ ทำตาม และลาออก