กลัวว่าอิทธิพลของตนจะลดน้อยถอยลงและจะถูกท้าทายจากสองมหาอำนาจใหญ่ที่จับมือกันแข็งขันอย่างรัสเซียและจีน สหรัฐฯและตะวันตกจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสกัดการเติบโตของสองประเทศนี้ให้ได้ สหรัฐฯเคยจะยืมมือประเทศที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียเพื่อเล่นงานรัสเซียมาก่อน ทั้งจอร์เจีย เบลารุส และคาซัคสถาน แต่ไม่สำเร็จ มาสำเร็จเอาที่อูเครน สงครามรัสเซีย-อูเครนทำให้รัสเซียต้องหยุดการพัฒนาและหันมาวุ่นวายขายปลาช่อนกับปัญหาการสู้รบ
สหรัฐฯทำเล่นงานรัสเซีย แม้แต่การไปสร้างไบโอแล็บหรือแล็บชีวภาพเป็นศูนย์ทดลองทางชีวภาพไว้ในประเทศรอบรัสเซีย ที่ถูกเปิดเผยออกมาอย่างถ่องแท้และไม่ใช่เป็นข่าวปลอมข่าวปล่อยก็คือ มีไบโอแล็บของสหรัฐฯตั้งอยู่ในคาซัคสถานและอูเครนหลายแห่ง
สำหรับจีน สหรัฐฯพยายามยับยั้งการพัฒนาของจีนด้วยการสะสมประเด็นความขัดแย้งของจีนในไต้หวัน ฮ่องกง มองโกเลียในทิเบต อุยกูร์ และกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้ ทว่าแต่ละความขัดแย้งที่สหรัฐฯยิงออกไปแล้ว ไม่สามารถทำให้จีนบาดเจ็บจนต้องหยุดพัฒนา สหรัฐฯจึงต้องเตรียมสร้างความขัดแย้งใหม่ที่จะให้ผลระดับเดียวกับอูเครน มีอยู่ประเทศหนึ่งซึ่งมีพรมแดนติดกับจีนและมีขยะซ่อนอยู่ใต้พรมมากพอที่จะสร้างความขัดแย้งได้ในอนาคต นั่นคือ ‘ปากีสถาน’
จีนกับปากีสถานมีพรมแดนร่วมกัน 596 กิโลเมตร ผู้อ่านท่านคงจะเคยได้ยิน Karakorum Pass หรือช่องเขาคาราโครัม ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยอดเขาเคทู บริเวณนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่ใช้ผ่านเทือกเขาหิมาลัยระหว่างแคว้นชัมมูและแคชเมียร์ของปากีสถานกับสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากบริเวณนี้จะมีพรมแดนจีนกับปากีสถานแล้ว ยังมีพรมแดนปากีสถานกับอินเดีย (มีความขัดแย้งกัน) และพรมแดนจีนกับอินเดีย (มีความขัดแย้งเช่นกัน) ความขัดแย้งทั้งหลายที่สะสมมานานจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะสร้างไฟสงครามให้ลุกโชน
...
จะสกัดการเติบโตของรัสเซียให้ได้ผล สหรัฐฯและพวกจำเป็นต้องสะสมเชื้อความขัดแย้งไว้ในประเทศที่มีพรมแดนทางบกติดกับรัสเซียซึ่งมีอยู่ 18 ประเทศ คือ นอร์เวย์ (195 กม.) ฟินแลนด์ (1,271) เอสโตเนีย (324) ลัตเวีย (270) ลิทัวเนีย (266) โปแลนด์ (204) อูเครน (2,093) จอร์เจีย (572) อับคาเซีย (255) เซาท์ออสเซเตีย (70) อาเซอร์ไบจาน (327) คาซัคสถาน (7,512) จีน (4,209) มองโกเลีย (3,485) เกาหลีเหนือ (17) และเบลารุส (1,239) ส่วนอีก 2 ประเทศที่มีแต่เขตแดนบนผืนน้ำคือ ญี่ปุ่น (194) และสหรัฐฯ (49)
จะสกัดการเติบโตของจีนให้ได้ผล สหรัฐฯและพวกต้องสะสมเชื้อความขัดแย้งไว้ในประเทศที่มีพรมแดนทางบกติดกับจีนซึ่งมีอยู่ 14 ประเทศ คือ อัฟกานิสถาน (76 กม.) ภูฏาน (470) อินเดีย (3,488) คาซัคสถาน (1,533) คีร์กีซ (858) มองโกเลีย (4,677) เนปาล (1,440) เกาหลีเหนือ (1,416) ปากีสถาน (596) รัสเซีย (3,645) ทาจิกิสถาน (414) พม่า (2,185) ลาว (423) และเวียดนาม (1,283)
จีนยังมีข้อพิพาททางทะเลที่มีอยู่ 3 แห่งที่สหรัฐฯพยายามตอกย้ำให้ความขัดแย้งบานปลายขยายออกไปคือ 1.ข้อพิพาทหมู่เกาะ พาราเซลที่มีรัฐอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะแห่งนี้อยู่ 3 แห่ง คือ จีน ไต้หวัน และเวียดนาม 2.ข้อพิพาทหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่มีทั้งเกาะขนาดเล็ก โขดหิน แนวหิน แนวหินปะการัง สันทรายใต้น้ำ โขดหินประการังรูปวงแหวน และลักษณะภูมิสัณฐานอื่นมากกว่า 140 แห่งในพื้นที่ 4 แสนตารางกิโลเมตร โดยมีรัฐที่อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ 6 แห่ง คือ จีน ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน และ 3.ข้อพิพาทหมู่เกาะเตียวหยูไถ (ญี่ปุ่นเรียกเซ็นกากุ) ซึ่งรัฐที่อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะนี้คือจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน
สหรัฐฯและตะวันตกสร้างความขัดแย้งในอูเครนเพียงจุดเดียว รัสเซียยังชะงักกักกึก ผู้อ่านท่านที่เคารพลองนึกดูเถิด ถ้าสหรัฐฯและตะวันตกสามารถช่วยกันสร้างความขัดแย้งให้ปะทุขึ้นมาได้หลายจุดพร้อมกัน แม้รัสเซียหรือจีนจะร่วมกันสู้ ก็คงจะสู้ไม่ไหวดอกครับ ความฝันที่จะลดอิทธิพลของสหรัฐฯจะกลายเป็นหมัน.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com