ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาแสดงความกังขา หลังรัสเซียประกาศลดปฏิบัติการทางทหารรอบกรุงเคียฟ เนื่องจากเจรจาสันติภาพกับยูเครนมีความคืบหน้า
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 29 มี.ค. 2565 กองทัพรัสเซียระบุว่า พวกเขาลดปฏิบัติการทหารใกล้กรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางเหนือของยูเครนลงอย่างมาก หลังจากการเจรจาสันติภาพกับฝ่ายยูเครน ที่นครอิสตันบูล ของตุรกี เรื่องการเตรียมข้อตกลงเกี่ยวกับสถานะประเทศเป็นกลางและปลอดนิวเคลียร์ของยูเครน คืบหน้าเข้าสู่ภาคปฏิบัติ
นายอเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า การลดปฏิบัติอการทางทหาร เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นร่วมกัน และสร้างสภาวะสำหรับการเจรจาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยังคงกังขาในคำพูดของฝ่ายรัสเซีย โดยเขาตอบผู้สื่อข่าวที่ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เราจะได้เห็นกัน ผมยังไม่คิดอะไรมากในเรื่องนี้จนกว่าผมจะเห็นการกระทำของพวกเขา เราจะได้เห็นว่า พวกเขาทำตามในสิ่งที่พวกเขาบอกหรือไม่”
ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาแสดงความไม่เชื่อถือในคำพูดของรัสเซียมากกว่านายไบเดนเสียอีก โดยนายจอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน กล่าวในงานแถลงข่าวว่า พวกเขาตรวจพบว่า มีทหารรัสเซียเพียงเล็กน้อยที่ขยับออกห่างจากกรุงเคียฟเมื่อวันก่อน รัสเซียยังสามารถสร้างความโหดร้ายในยูเครน รวมถึงในเมืองหลวงแห่งนี้ได้
“เราเชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนตำแหน่งกองทัพใหม่ ไม่ใช่การถอนทหารที่แท้จริง และเราควรเตรียมจับตาดูการโจมตีครั้งใหญ่ในพื้นที่อื่นๆ ของยูเครน นี่ไม่ได้หมายความว่าภัยคุกคามต่อกรุงเคียฟจะจบลง” นายเคอร์บีกล่าว
...
“ไม่มีใครควรหลอกตัวเองด้วยคำกล่าวอ้างของรัฐบาลเครมลิน ว่าจู่ๆ พวกเขาจะลดการโจมตีทางทหารใกล้กรุงเคียฟ หรือรายงานใดๆ ที่ว่า พวกเขาจะถอนทหารทั้งหมด” นายเคอร์บี กล่าวอีกว่า จำนวนทหารที่รัสเซียขยับออกห่างจากกรุงเคียฟ ไม่ได้ใกล้เคียงกับจำนวนทหารที่พวกเขาใช้โจมตีเมืองหลวงแห่งนี้เลย และรัสเซียยังคงโจมตีทางอากาศในกรุงเคียฟอยู่จนถึงวันนี้
คำพูดของนายเคอร์บีเกิดขึ้นท่ามกลางรายงานจากทีมข่าวภาคสนามของซีเอ็นเอ็น ว่า ยังมีปืนใหญ่และจรวดถูกยิงเข้าใส่กรุงเคียฟ ในเวลาประมาณ 23.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น