4 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป ออกคำสั่งไล่นักการทูตรัสเซียรวม 43 คน ออกจากประเทศ เนื่องจากต้องสงสัยว่าคนกลุ่มนี้คอยส่งข้อมูลให้รัสเซีย
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลของประเทศไอร์แลนด์, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก ออกคำสั่งขับไล่เจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซีย จำนวนรวม 43 คน ออกจากประเทศ เมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ 29 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ด้วยข้อสงสัยว่าเป็นสายลับ ตามรอยชาติสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ รวมถึงโปแลนด์ ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้
นางโซฟี วิลเมส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเบลเยียม บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า เจ้าหน้าที่ 21 คนที่สถานทูตรัสเซียในกรุงบรัสเซลส์ กับสถานกงสุลในเมืองอันท์เวิร์ป ถูกขอให้ออกจากประเทศภายในเวลา 2 สัปดาห์ โดยการขับไล่ครั้งนี้เกี่ยวพันกับความมั่นคงของชาติ
เธอเสริมด้วยว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นเป็นความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศสั่งขับไล่นักการทูตรัสเซีย 17 ราย ที่ต้องสงสัยว่า มีแบบปฏิบัติการโดยลับในฐานะเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง
ขณะที่ นายไมเคิล มาร์ติน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ บอกกับเหล่า ส.ส.ว่า รัฐบาลของเขาขับไล่ทูตรัสเซีย 4 คนหลังได้รับคำแนะนำด้านความมั่นคงจากสำนักงานข่าวกรอง ส่วนเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐเช็ก บอกกับสำนักข่าว เอเอฟพี ว่า ทูตที่ถูกขับออกจากประเทศคือ อัครราชทูตรัสเซีย เพื่อลดเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียในสหภาพยุโรป
ด้านสถานทูตรัสเซียในกรุงดับลิน ของไอร์แลนด์ ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเจ้าหน้าที่ของพวกเขาเป็นสายลับ ระบุเป็นการตัดสินใจอย่างไม่มีเหตุผล และเรื่องนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับไอร์แลนด์แย่ลงไปอีก
...
ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน โปแลนด์ออกคำสั่งขับนักการทูตรัสเซีย 45 คนออกจากประเทศ เนื่องจากต้องสงสัยว่าจารกรรมข้อมูล ขณะที่เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม บัลแกเรีย, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย และเอสโตเนีย ก็ดำเนินการขับเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซีย 20 คน ออกจากประเทศ ฐานเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ขัดแย้งกับสถานะทางการทูตของพวกเขา