ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯแสดงความกังวล หลังพบข้อมูลว่าการตรวจสวอบจมูก หรือ ATK อาจจะตรวจไม่เจอเชื้อโอมิครอน หากยังเป็นการติดเชื้อในระยะแรก ส่งผลให้การควบคุมการระบาดทำได้ยากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในสหรัฐฯ เตือนทั่วโลกอย่าวางใจในผลตรวจ ATK หรือการใช้ชุดตรวจแอนติเจนแบบทราบผลเร็ว ที่ใช้การตรวจด้วยการแหย่จมูก เพราะพบว่าการตรวจเชื้อด้วยวิธีนี้อาจจะไม่สามารถตรวจจับการติดเชื้อโอมิครอนได้อย่างรวดเร็วพอ โดยหากมีการตรวจในช่วงระยะแรกของการติดเชื้ออาจจะมีผลตรวจเป็นลบ พร้อมแนะนำให้โรงงานผู้ผลิตชุดตรวจ ยื่นขอให้สหรัฐฯ อนุมัติการใช้งานการตรวจเชื้อแบบป้ายในลำคอด้วย ขณะที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยหากจะให้ประชาชนตรวจเชื้อด้วยการป้ายในลำคอด้วยตัวเอง
นายแพทย์ ไมเคิล มีนา อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของโรงเรียนสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาศาสตร์ ของ eMed ระบุว่า ผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะสามารถแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่นๆ ได้ นับตั้งแต่เชื้อยังอยู่ที่ลำคอและน้ำลาย โดยที่ไวรัสอาจจะยังไปไม่ถึงโพรงจมูกด้วยซ้ำ ดังนั้นการตรวจด้วยการสวอบในจมูก อาจจะไม่พบเชื้อใดๆ หากเป็นการติดเชื้อในระยะเริ่มต้น
...
โดยผลการศึกษาที่มีการเผยแพร่ใน medRxiv เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลของคนงานที่ติดเชื้อโอมิครอน 29 คน ที่ได้รับการตรวจด้วยชุดตรวจ PCR และ ATK หลังจากได้รับเชื้อเป็นเวลาหลายวัน พบว่าการตรวจ PCR โดยตรวจจากน้ำลายสามารถตรวจพบเชื้อไวรัส ก่อนหน้าที่จะตรวจพบเชื้อด้วยการตรวจ ATK โดยสวอบจมูก เฉลี่ย 3 วัน ซึ่งหมายความว่า แม้จะมีผลสวอบเป็นลบ ก็อาจจะติดเชื้ออยู่แล้ว และยังสามารถแพร่กระจายเชื้อให้แก่คนอื่นๆ ได้
ขณะที่โลกโซเชียลมีเดียในเวลานี้ มีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนที่แนะนำให้ผู้ที่ใช้งานชุดตรวจแบบ ATK ให้นำไม้ทดสอบ ไปป้ายที่ลำคอก่อน แลัวค่อยนำมาสวอบจมูกทีหลัง เพื่อให้ได้ผลตรวจที่แม่นยำขึ้น แต่องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ก็ยังคงแสดงความเป็นห่วงแนวทางนี้ และแนะนำให้ประชาชนใช้งานตามคู่มือที่ชุดตรวจแนบมาจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากการตรวจเชื้อภายในลำคอมีความซับซ้อนกว่าการตรวจในจมูก และหากใช้งานไม่ถูกวิธีอาจจะอันตรายต่อตัวผู้ใช้งานเองได้ จึงควรให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเป็นผู้ตรวจหาเชื้อด้วยวิธีนี้เท่านั้น.
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย