องค์การอนามัยโลกเผย วัคซีนต้านโควิด-19 สามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิดลงได้เพียง 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเตือนผู้ที่รับวัคซีนแล้วยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอื่นๆ ต่อไป
นายทีโดรส อัดฮานอม กรีเบเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงว่าการได้รับวัคซีนโควิด จะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้ราว 40 เปอร์เซ็นต์ หลังจากในตอนแรกข้อมูลชี้ว่า การฉีดวัคซีนสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อได้ 60 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา ทำให้ตัวเลขลดลงมาเหลือเพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น พร้อมแสดงความเป็นห่วงต่อความเข้าใจผิดของคนจำนวนมาก ที่คิดว่าฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ติดเชื้อแล้ว และไม่จำเป็นต้องระมัดระวังตัวอีก จึงอยากฝากเตือนให้คนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ยังต้องป้องกันตัวต่อไป เพราะการฉีดวัคซีนเพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะมีอาการป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต หลังการติดเชื้อ แต่ยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อและเเพร่กระจายเชื้อให้กับผู้อื่นได้อยู่
ดังนั้น มาตรการรับมือโควิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย ใช้แอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ จากการเฝ้าติดตามการกลายพันธ์ุของเชื้อโควิด-19 ของ WHO พบว่าปัจจุบันการระบาดของเชื้อส่วนใหญ่มากถึง 99.8 เปอร์เซ็นต์เป็นการระบาดของเชื้อเดลตา ซึ่งตัวเชื้อกลายพันธุ์เดลตาเองก็กำลังมีการกลายพันธุ์เพื่อหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าจับตา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งขณะนี้ยุโรปกำลังเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อเดลตา ทั้งจากปัจจัยจำนวนผู้รับวัคซีนน้อยในบางประเทศ และสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นและการผ่อนคลายมาตรการประกอบกัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยุโรปมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2.4 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้นราว 11% จากสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างในประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 31 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว.
...
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย