อัตราการเกิดของจีนปีที่ผ่านมาดิ่งลงต่ำสุดในรอบกว่า 40 ปี สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤติจำนวนประชากรเกิดใหม่ในจีนและปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่จะตามมา

จีนยังคงต้องรับมือกับปัญหาประชากรเกิดใหม่ลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าจะผ่อนคลายนโยบาย ลูกคนเดียว ซึ่งเป็นนโยบายที่ใช้มาอย่างยาวนานมาตั้งแต่ปี 2016 โดยอนุญาตให้คู่สามีภรรยาสามารถมีลูกได้ 2 คน ก่อนจะขยายให้สามารถมีลูกได้ถึง 3 คนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ดูจะยังไม่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากยังมีปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น และผู้หญิงส่วนใหญ่มีความคิดในการวางแผนชีวิตครอบครัวด้วยตัวเอง

จากข้อมูลในรายงานประจำปี Yearbook 2021 ของปีที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเกิดอยู่ที่ 8.52 ต่อประชากร 1,000 คน หรือมีทารกเกิด 12 ล้านคนในปี 2563 ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่มีอัตราการเกิดอยู่ที่ 10.41 และยังนับเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มทำสำรวจสำมะโนประชากรเมื่อปี 2521

ขณะเดียวกันข้อมูลของรายงานประจำปี ยังแสดงให้เห็นจำนวนของการสมรสในปี 2020 ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 17 ปี โดยมีคู่รักจดทะเบียนสมรสกันเพียง 8.14 ล้านคู่เมื่อปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของสามีภรรยาที่หย่าร้างกันลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี หลังจากมีข้อบังคับให้คู่รักที่จะหย่าร้างกัน กลับไปทบทวนพิจารณาใหม่ 30 วันก่อนตัดสินใจอีกครั้ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เพิ่งเริ่มใช้ในปี 2020

ทั้งนี้ ในช่วงของการระบาดของโควิด-19 หลายพื้นที่ของจีนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นานหลายเดือน ทำให้สถานที่ราชการต่างๆ ต้องปิดทำการชั่วคราว ซึ่งอาจจะมีส่วนต่อการตัดสินใจเปลี่ยนสถานะต่างๆ ของประชาชนที่ยังคงต้องรอเวลา ทั้งการแต่งงาน และการหย่าร้าง

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีนอาจจะรายงานตัวเลขการเกิดต่ำกว่าความเป็นจริงในระหว่างช่วงปี 2000- 2010 อย่างน้อย 11.6 ล้านคน เพราะยังพบความคลาดเคลื่อนของข้อมูลระหว่างรายงานประจำปี ที่มีการสำรวจเป็นประจำทุกปี กับการสำรวจสำมะโนประชากรที่สำรวจทุกๆ 10 ปี.

...