หนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่น รายงานเมื่อ 14 ต.ค. อ้างผลสำรวจกระทรวงศึกษาธิการว่า การฆ่าตัวตายในเด็กญี่ปุ่นเพิ่มสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี นับแต่เริ่มบันทึกสถิติในปี 2517 ด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ทางกระทรวงต้องสั่งปิดโรงเรียนและกระทบต่อการใช้ชีวิตของเด็ก โดยมีเด็กนักเรียนตั้งแต่วัยประถมศึกษา จนถึงชั้นมัธยมศึกษา 415 คนปลิดชีพตัวเอง ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100 คนจากเมื่อปีกลาย

นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคยังรายงานว่า พบเด็กนักเรียนกว่า 196,127 คน ขาดเรียน 30 วันหรือนานกว่านั้น ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนและสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยอันเนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพฤติกรรมเด็ก และการฆ่าตัวตายปีก่อนก็เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิงด้วยความเครียดทางอารมณ์และปัญหาการเงิน ทั้งนี้ การฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเป็นปัญหาที่มีมายาวนานเพราะเป็นหนทางที่จะหลีกหนีความอับอายและความอัปยศ จนอัตราการตายถือว่ามากที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ซึ่งรัฐบาลใช้ความพยายามตลอด 15 ปีจนตัวเลขลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ และลดลง 10 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2552.