ฮาวานาเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐคิวบา อยู่ห่างจากเมืองคีย์เวสต์ รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ เพียง 145 กิโลเมตร เคยเป็นฐานทัพเรือที่สำคัญของสเปนในโลกใหม่ ต่อมาอังกฤษเข้ายึดครอง จากนั้นก็กลับคืนเป็นของสเปน กุมภาพันธ์ 1898 เรือรบของสหรัฐฯถูกวางระเบิดที่ด้านนอกของอ่าวจอดเรือ ทำให้เกิดสงครามสเปน-สหรัฐฯ โดยสเปนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ต้องยกคิวบา เปอร์โตริโก กวม และหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ให้อยู่ในอารักขาของสหรัฐฯ จนถึง 20 พฤษภาคม1902 สหรัฐฯจึงให้เอกราชแก่คิวบา แต่ยังคงถือสิทธิ์ในฐานทัพเรือที่อ่าวกวนตานาโมจนถึงปัจจุบัน

ค.ศ.2016 เจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอที่ทำงานให้กับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงฮาวานาพบว่าตัวเองหูอื้อ ได้ยินเสียงจักจั่นร้องอื้ออึงอยู่ในหูตลอดเวลา ปวดหูและสูญเสียการได้ยินบางส่วน ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย แถมยังมีปัญหาเรื่องความทรงจำ เจ้าหน้าที่ซีไอเอพวกนี้ถูกนำไปสแกนสมอง พบว่าเนื้อเยื่อสมองบางส่วนถูกทำลาย ลักษณะคล้ายการถูกทำลายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือแรงกระแทกจากระเบิด

รัฐบาลสหรัฐฯตระหนกตกใจและอพยพเจ้าหน้าที่ของตนออกจากสถานทูตในกรุงฮาวานาและตั้งชื่ออาการนี้ว่า “ฮาวานาซินโดรม” ตอนแรกพวกนักวิทยาศาสตร์อเมริกันคิดว่าฮาวานาซินโดรมเกิดจาก sonic weapons หรืออาวุธที่ใช้คลื่นความถี่สูงต่อมาNASEM หรือองค์กรวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์ของสหรัฐฯ บอกว่า สาเหตุมาจากคลื่นไมโครเวฟที่สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานได้โดยไม่ทำลายโครงสร้างทั้งหมดของสมอง

สหรัฐฯตะโกนบอกโลกว่าโซเวียตพัฒนาเทคโนโลยีคลื่นไมโครเวฟตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 และเคยใช้อาวุธคลื่นไมโครเวฟเล่นงานสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงมอสโก นักวิจัยของNASEM มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์สตาบบอกว่า แม้จะสามารถยิงคลื่นไมโครเวฟเข้าไปในหัวมนุษย์ และทำให้คนนั้นได้ยินเสียงคลิกอย่างต่อเนื่องในหู แต่ไม่มีข้อสรุปว่าจะสามารถสร้างบาดแผลได้หรือไม่ ส่วนนักวิทยาศาสตร์ฟอสเตอร์บอกว่า ความเชื่อที่ว่าฮาวานาซินโดรมมาจากคลื่นไมโครเวฟนั้นไม่น่าเชื่อถือ

...

นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็น Mass Psychogenic Illness หรืออุปาทานหมู่ของคนทำงานที่เครียดจากการถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา นอกจากที่คิวบาแล้ว ที่เยอรมนีก็เกิดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯมีอาการฮาวานาซินโดรม เจ้าหน้าที่เหล่านี้ดูแลงานความมั่นคงไซเบอร์ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 และการแทรกแซงทางการเมือง

กรกฎาคมปีนี้ ผอ.ซีไอเอสั่งย้ายหัวหน้าซีไอเอประจำกรุงเวียนนาเพราะป่วยจากฮาวานาซินโดรมจนทำงานไม่ได้ นักการทูตสหรัฐฯในออสเตรียกว่า 20 คนก็ปวดหัว คลื่นไส้ ได้ยินเสียงดังลั่นในหู รู้สึกเหมือนศีรษะได้รับแรงกระแทกอย่างแรง โดยที่ไม่รู้ว่าเสียงที่ว่ามาจากไหน

นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนประเทศสำคัญในกลุ่มอาเซียน คือสิงคโปร์ และเวียดนาม ก่อนจะบินออกจากสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯในเวียดนามแจ้งว่าอาจพบ “เหตุผิดปกติด้านสุขภาพ” ที่กรุงฮานอย ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายร้อยคนเจ็บป่วยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้นางแฮร์ริสเดินทางออกจากสิงคโปร์ล่าช้าไป 3 ชั่วโมง และยืนยันว่าเธอจะไม่เดินทางไปประเทศอื่น หากไม่มีการยืนยันเรื่องความปลอดภัยที่จุดหมายปลายทาง

ราชการสหรัฐฯใช้คำว่า “เหตุผิดปกติด้านสุขภาพ” แทนคำว่า “ฮาวานาซินโดรม” ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯในประเทศโน้นประเทศนี้มีเหตุผิดปกติด้านสุขภาพ

เรื่องนี้มองได้ 3 อย่าง อย่างแรกเป็นอุปาทานหมู่ อย่างที่สองอาจมีบางประเทศที่คิดอาวุธไมโครเวฟได้สำเร็จ อย่างที่สามก็อาจเป็นพล็อตที่สร้างขึ้นมาเพื่อจะใช้โยนความผิดให้กับประเทศอื่น ให้โลกเข้าใจว่า อ้า รัสเซีย (หรือจีน) ที่ยิงคลื่นไมโครเวฟใส่สมองคนเป็นพวกไม่ดี

อย่างที่สามนี่เกิดขึ้นบ่อยครับ เป็นการสร้างเรื่องเพื่อสะสมความผิดให้คนทั้งโลกเกลียดชังศัตรู.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com