• การผ่าตัดเสริมความงามในจีนกำลังอยู่ในยุคเฟื่องฟู โดยเฉพาะกับกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวทั้งหญิงและชาย ที่หันมาพึ่งมีดหมอเพื่อเสริมความหล่อความสวยตั้งแต่ในวัยเรียน เพื่อหวังพลิกชีวิตเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง
  • เทรนด์การเสริมความงามที่มาแรง ส่งผลให้เกิดสถานเสริมความงามเพื่อรองรับความต้องการผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และในจำนวนนี้มีสถานเสริมความงามที่ผิดกฎหมายจำนวนไม่น้อย หวั่นเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค จนสื่อของรัฐต้องออกมาเรียกร้องให้ทางการออกมาคุมเข้มให้มากขึ้น
  • สมาคมพลาสติกและสุนทรียศาสตร์แห่งประเทศจีน คาดการณ์ว่าขนาดตลาดการทำศัลยกรรมตกแต่งของจีนอาจสูงแตะ 3 แสนล้านหยวน หรือ ประมาณ 1.54 ล้านล้านบาทในปี 2022

กระแสความนิยมศัลยกรรมเติบโตก้าวกระโดด

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่นิยมการทำศัลยกรรมเสริมความงาม ก็เพราะการโฆษณาและการทำการตลาดที่สร้างค่านิยมเกินจริงว่าหน้าตาที่ดูดีจะนำไปสู่การประสบความสำเร็จ และบางครั้งก็เป็นการอ้างข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยจะเห็นโฆษณาศัลยกรรมเสริมความงามติดตั้งตามป้ายรถเมล์ และในรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาแฝงในภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้ทางโทรทัศน์ การโปรโมตทางออนไลน์ และโฆษณาความงามทางการแพทย์อีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่สื่อสารไปยังผู้รับสารว่า หน้าตาที่ดูดีสวยหล่อ หมายถึง คุณภาพดี ฉลาด และประสบความสำเร็จ ไปจนถึงว่า การทำศัลยกรรมพลาสติกจะช่วยเปลี่ยนชีวิตของคนทำได้ 

...

แอปพลิเคชัน เจิ้งเหม่ย ที่หมายถึง สวยมากขึ้น ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมความงาม ที่เปิดใช้งานนับตั้งแต่ปี 2013 มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 1 ล้านคน เพิ่มมาเป็น 36 ล้านคน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้งานเป็นหญิงสาวอายุราว 20 ปีขึ้นไป

ขณะที่โซ-ยัง แพลตฟอร์มเกี่ยวกับสถานเสริมความงามมีผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้น จาก 1.4 ล้านคนในปี 2018 ไปเป็น 8.4 ล้านคนในวันนี้ ซึ่งความนิยมในการเสิร์ชค้นคว้าหาข้อมูลจำนวนมาก เป็นตัวบ่งชี้ว่า ทัศนคติเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมในจีน เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

สำหรับการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือการทำตาสองชั้น การทำกรามให้เป็นวี-เชฟ จนมาถึงการทำหูแหลมเหมือนเอลฟ์ซึ่งเป็นแฟชั่นที่มาใหม่ โดยการเสริมความงามแบบที่เป็นการเติมแต่งรูปลักษณ์เพียงเล็กน้อยหรือขั้นตอนที่ไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด เช่น การฉีดสารเสริมความงามหรือการรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นตัวเลือกที่สะดวก ปลอดภัย และมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมแบบดั้งเดิม คนไม่น้อยจึงเริ่มหันมาสนใจการฉีดหรือการแก้ไขเล็กน้อยที่ช่วยเติมแต่งรูปลักษณ์ดั้งเดิมกันมากขึ้น ซึ่งการยอมรับว่าตัวเองผ่านการทำศัลยกรรมมาก็ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดา แม้กับคนที่มีชื่อเสียงก็ตาม

โดยขณะนี้ธุรกิจเสริมความงามในจีนนับว่าเติบโตมากที่สุดของโลก มีการผ่าตัดศัลยกรรมมากที่สุด รองจากสหรัฐฯ เท่านั้น โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลางที่ใช้จ่ายไปกับการเสริมความงามมากขึ้น ขณะที่รายงานจากสมาคมพลาสติกและสุนทรียศาสตร์แห่งประเทศจีนในปี 2020 คาดการณ์ว่าขนาดตลาดการทำศัลยกรรมตกแต่งของจีนอาจสูงแตะ 3 แสนล้านหยวน หรือ ประมาณ 1.54 ล้านล้านบาทในปี 2022

ด้านหน่วยศัลยกรรมความงามของเหม่ยถวน ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน เปิดเผยข้อมูลในปี 2020 พบว่าคนหนุ่มสาวเป็นฐานผู้บริโภคหลักในเวลานี้ โดยผู้ใช้บริการกว่าร้อยละ 78 มีอายุระหว่าง 20-30 ปี ซึ่งในระหว่างการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2020 ที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่สนใจบริการลดริ้วรอย ทำให้ยอดคำสั่งซื้อในหมวดดังกล่าวพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 88 จากช่วงเดียวกันของปี 2019 แต่ท่ามกลางความเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ได้สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย เพราะธุรกิจด้านมืดก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะการเปิดคลินิกเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องออกมาย้ำเตือนถึงความเสี่ยงที่มาพร้อมการเสริมความงาม ซึ่งผู้บริโภคจำเป็นต้องหาสถาบันเสริมความงามและแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเข้าใช้บริการ

...

ทำไมถึงกล้าเสี่ยง?

การเสริมความงามไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเท่านั้น แต่คนหนุ่มสาวต่างหันหน้ามาพึ่งมีดหมอด้วยเหตุผลที่จะเพิ่มโอกาสด้านการงานด้วย

ดร.เบรนดา อัลเลเกร ศาสตราจารย์ด้านเพศศึกษา จากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ระบุว่า ในจีน การสมัครงานจำเป็นต้องมีภาพถ่าย และมีหลายงานที่มีการระบุเฉพาะเจาะจงไปถึงสัดส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะผู้หญิง แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานในตำแหน่งนั้นๆ ก็ตาม ตัวอย่างเช่น รับสมัครหญิงสาวหน้าตาดี และดึงดูดใจ ในตำแหน่งเซลส์ขายเสื้อผ้า เป็นต้น
ขณะที่การเป็นเน็ตไอดอล การทำวิดีโอ คอนเทนต์ หรือแม้แต่คนไลฟ์ขายของทางอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ก็จะต้องมีหน้าตารูปร่างดี จึงจะได้รับความสนใจและได้รับความนิยมเช่นกัน จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าความสวยงามจะเป็นหนึ่งในช่องทางในการสร้างงาน สร้างรายได้

ไม่เพียงแต่หญิงสาวเท่านั้น ที่การทำศัลยกรรมช่วยเปลี่ยนชีวิต เพราะผู้ชายจำนวนมากก็นิยมการทำศัลยกรรมเช่นกัน นายแบบ น่าย เหวิน เป็นหนึ่งตัวอย่าง จากกรณีที่ทำศัลยกรรมความงามแล้วปัง โดยเขาต้องผ่านการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้ามามากกว่า 60 ครั้ง แต่ก็ยังอวดภาพ ก่อนผ่าและหลังผ่าให้ชาวโลกได้รู้อย่างภาคภูมิใจ เพราะการศัลยกรรมได้เปลี่ยนชีวิตเขา จากชายหนุ่มหน้าเหลี่ยม จมูกแบน ตาตี่ กลายมาเป็นชายรูปงามที่มีใบหน้ารูปไข่ ตาโตสองชั้น จมูกโด่ง และผิวแก้มเกลี้ยงเกลาไร้รอยด่างดำได้

น่าย เหวิน นายแบบจีน
น่าย เหวิน นายแบบจีน

...

การควบคุมที่เข้มงวดขึ้น

จากรายงานของโกลบอล ไทมส์ ระบุว่า ในปี 2019 ประเทศจีนมีสถานเสริมความงามที่ไม่ถูกกฎหมายอยู่มากถึงกว่า 60,000 แห่ง โดยสถานเสริมความงามเถื่อนเหล่านี้มีเหตุไม่พึงประสงค์จากการศัลยกรรมเกิดขึ้นราว 40,000 เหตุการณ์ในทุกๆ ปี เฉลี่ยจะมีผลงานที่ผิดพลาดราว 110 เคสต่อวัน หนึ่งคดีที่โด่งดังในจีนก็คือคดีของนักร้องแสดงหญิง เกา หลิว ที่เจอพิษศัลยกรรม จากจมูกสวย กลายเป็นเนื้อจมูกตาย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 ที่ผ่านมา จนเธอต้องออกมาโพสต์ภาพจมูกของเธอ เพื่อเตือนอันตรายจากการทำศัลยกรรม โดยแพทย์ที่ผ่าตัดให้เธอถูกพักงานเป็นเวลา 6 เดือน ขณะที่โรงพยาบาลถูกปรับเป็นเงิน 49,000 หยวน หรือราว 260,000 บาทเท่านั้น

ล่าสุดทางการจีน ได้ประกาศที่จะคุมเข้มและปราบปรามสถานบริการเสริมความงามเถื่อน โดยจะมีการสอบสวนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนอย่างทั่วถึง โดยได้เผยแพร่หนังสือเวียนเรียกร้องให้มีข้อบังคับเข้มงวดมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามของประเทศเมื่อเดือนเมษายน 2020 อีกทั้งยังกำหนดขั้นตอนการอนุมัติ การกำกับดูแลคุณสมบัติและใบอนุญาต ตลอดจนการตรวจสอบแบบสุ่มเป็นไปอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

...