รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ในเดือน พ.ย. อนุญาตให้พลเมืองออสเตรเลียเดินทางไปต่างประเทศได้แล้ว หลังล็อกสกัดโควิดมานานถึง 18 เดือน

เมื่อ 1 ต.ค. 64 เว็บไซต์อัลจาซีราและแชนเนลนิวส์เอเชีย รายงาน นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลียเตรียมผ่อนปรนมาตรการ เพื่อเปิดพรมแดนระหว่างประเทศอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากได้สั่งปิดพรมแดน ห้ามไม่ให้ชาวออสเตรเลียเดินทางออกนอกประเทศหากไม่ได้รับอนุญาต และขณะเดียวกันก็ทำให้พลเมืองชาวออสเตรเลียต้องติดค้างอยู่ในต่างประเทศมานานนับ 18 เดือน ตั้งแต่มีนาคม 2563

นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า ชาวออสเตรเลียจะสามารถเดินทางกลับมาประเทศและเดินทางไปต่างประเทศได้ ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หากสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 80% ของจำนวนประชากรในประเทศ

"ถึงเวลาที่จะให้ชีวิตของชาวออสเตรเลียกลับคืนมาแล้ว พวกเราพร้อมแล้ว และออสเตรเลียจะพร้อมที่จะเทคออฟ เหินฟ้าในเร็วๆ นี้" นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวให้ความหวังแก่ชาวออสเตรเลีย

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการออสเตรเลีย กล่าวด้วยว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่เร่งฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชนถึง 80% แล้ว อาจเป็นรัฐนำร่องทดสอบในแผนนี้

นครซิดนีย์เงียบเหงา ขณะทางการยังมีคำสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19
นครซิดนีย์เงียบเหงา ขณะทางการยังมีคำสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19

...

 

สำหรับเฟสแรกของการเปิดพรมแดนนี้ จะโฟกัส มุ่งไปที่ชาวออสเตรเลียที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วและผู้มีที่พำนักถาวรในออสเตรเลียที่จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศออสเตรเลียได้ ทว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะยังคงมีการกำหนดจำนวนผู้ที่จะได้เดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งเมื่อเข้ามาแล้วจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ระบาดในออสเตรเลีย ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อ30 ก.ย. จำนวน 2,005 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 18 ศพ หลังจากเมื่อ 29 ก.ย. 2,400 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 12 ศพ ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดในออสเตรเลียเพิ่มเป็น 107,128 ราย และเสียชีวิต 1,309 ศพ.