เมื่อ 29 ก.ย. ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับ 2 ของจีนที่กำลังเผชิญวิกฤติหนี้ล้นพ้นตัวประกาศแผนขายหุ้นมูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (ราว 5 แสนล้านบาท) ของธนาคารเสิ้งจิง เพื่อระดมทุน ขณะที่รัฐบาลจีนพยายามโน้มน้าวบริษัทต่างๆที่รัฐเป็นเจ้าของให้ซื้อทรัพย์สินบางส่วนของเอเวอร์แกรนด์
ทั้งนี้ หุ้นของธนาคารเสิ้งจิงมูลค่า1.75 พันล้านหุ้น หรือ 19.93% ของทุนเรือนหุ้นของธนาคาร จะถูกขายให้กับเสิ่นหยาง เสิ้งจิง ไฟแนนซ์ อินเวสท์เมนท์ กรุ๊ป รัฐวิสาหกิจที่จัดการเงินทุนและสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน ในราคา 5.70 หยวนต่อหุ้น ทำให้เสิ่นหยาง เสิ้งจิง เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของธนาคารที่ 20.79% ส่วนเอเวอร์แกรนด์เหลือหุ้น 14.75% นอกจากนี้ ธนาคารเสิ้งจิงยังสั่งให้นำเงินสุทธิทั้งหมดจากการขายไปชำระหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารจึงทำให้เอเวอร์แกรนด์ที่พลาดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ย 83.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามกำหนด 23 ก.ย. จะไม่สามารถนำเงินก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นได้.