ออสเตรเลีย หนึ่งในประเทศกลุ่มแรกที่ได้ปิดพรมแดนป้องกันโรคโควิด-19 ตั้งแต่เริ่มมีรายงานการแพร่ระบาดในช่วงแรก โดยอนุญาตให้พลเมืองออสเตรเลีย ผู้มีถิ่นพำนักถาวร และผู้ที่ได้รับการยกเว้น เดินทางเข้าประเทศเท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าการปิดพรมแดนจะช่วยให้ออสเตรเลียมีตัวเลขผู้ป่วยไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แม้จะยังพบโควิดระบาดในชุมชนเมืองใหญ่ก็ตาม แต่การปิดพรมแดนนาน 18 เดือนนั้นก็แลกมากับนักท่องเที่ยวและนักเรียนต่างชาติที่หายไป รวมถึงอุตสาหกรรมการบินที่กลายเป็นอัมพาต ส่วนการล็อกดาวน์ภายในประเทศก็ยังกระทบธุรกิจรายย่อยอย่างแสนสาหัส

...
ส่วนรัฐที่มีผู้ป่วยน้อยหรือแทบเป็นศูนย์ ไม่เห็นด้วยที่จะเปิดพรมแดนไปพร้อมๆ กับรัฐที่มีตัวเลขผู้ป่วยเฉียดพัน กล่าวหานายกฯ เดินหน้าเปิดทางรับโควิดเข้าประเทศ
ฉีดวัคซีนไม่ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่เปิดประเทศ
นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ประกาศขั้นตอนการเปิดประเทศ 4 ขั้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่ประชาชนชาวออสเตรเลียต้องได้รับการฉีดวัคซีนแตะ 80 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะสามารถเปิดพรมแดนได้
ออสเตรเลียเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ที่นับว่าควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยมียอดผู้ป่วยสะสมราว 34,000 ราย และเสียชีวิต 94 ศพ โดยการใช้วิธีล็อกดาวน์เมืองอย่างรวดเร็วหลังพบผู้ป่วย บวกกับมาตรการป้องกันโควิดที่รัดกุม แต่ถึงแม้จะสามารถป้องกันโควิดได้ดี แต่อัตราการฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ยังถือว่าล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศกลุ่มพัฒนาแล้วอื่นๆ โดยมีผู้ได้รับวัคซีนครบสองโดสราว 18 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร

ถัดมาเป็นเฟสซี ซึ่งออสเตรเลียจะเข้าสู่เฟสนี้เมื่อประชาชนได้รับวัคซีน 80 เปอร์เซ็นต์ โดยจะมีการยกเลิกมาตรการควบคุมการเดินทางขาออกของชาวออสเตรเลีย และผ่อนปรนมาตรการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มเติม ทยอยเปิดรับนักเดินทางจากประเทศเสี่ยงต่ำ ส่วนพลเมืองที่ฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับการยกเว้นจากข้อบังคับต่างๆ นอกจากนี้ยังขยายโครงการทราเวล บับเบิล กับประเทศสิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกด้วย

แต่ละรัฐความเห็นแตกเป็นหลายฝ่าย
ในขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียมีแผนการเปิดประเทศอย่างที่กล่าวไปข้างต้น แต่รัฐต่างๆ ของออสเตรเลียไม่ได้เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าวไปเสียหมด ขณะที่นครซิดนีย์ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด ส่วนรัฐวิกตอเรียมีแนวโน้มขยายมาตรการล็อกดาวน์ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และรัฐควีนส์แลนด์ ไม่เห็นด้วยกับแผนการเปิดประเทศเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาล บางส่วนมองว่าแผนการดังกล่าวถูกคิดขึ้นมาก่อนที่ออสเตรเลียจะเข้าสู่การแพร่ระบาดระลอกที่สาม และการใช้แผนการเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งในรัฐที่มีผู้ป่วยทะลุ 900 กับรัฐที่มีผู้ป่วยแทบเป็นศูนย์นั้น ถูกมองว่าไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก
...

ทุกรัฐรวมเป็นหนึ่ง ร่วมหาทางออกโควิด
ท่ามกลางเสียงคัดค้านแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล นายมอร์ริสันระบุว่า ถึงแม้แต่ละรัฐจะมีความเห็นที่แตกต่าง แต่ทุกรัฐมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ส่วนนายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย ได้พยายามโปรโมตแผนการเดินหน้าเปิดประเทศของรัฐบาล และวอนให้ประชาชนยอมรับความจริงว่าการทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์นั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งทางออกคือการอยู่ร่วมกับไวรัส โดยระบุว่า "ความเป็นจริงคือเราต้องอยู่ร่วมกับไวรัส...เราไม่สามารถกำจัดมันไปได้ และออสเตรเลียควรเปิดประเทศอย่างเป็นหนึ่งเดียว"

...
ผู้เขียน: นัฐชา กิจโมกข์ (Nattachar K.)