การส่ายไปมาของดวงจันทร์มักมีบทบาทในกระแสน้ำ แต่ผลการศึกษาใหม่ขององค์การนาซาระบุว่าระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติในวงโคจรของดวงจันทร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าชุมชนชายฝั่งตั้งแต่ชายฝั่งเจอร์ซีย์ไปถึงไมอามีและจนถึงแคลิฟอร์เนียตอนใต้ มีแนวโน้มว่าจะมีน้ำท่วมฉับพลันในช่วงกลางทศวรรษนี้ไปจนถึงทศวรรษที่ 2030
นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยเดร็กเซิล ในสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นต่อแหล่งน้ำตามชายฝั่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์และเดลาแวร์ รายงานว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จะสูญเสียหนองบึงมากขึ้น ป่าชายฝั่งทะเลจะได้รับผลกระทบ และจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า หลังจากได้ตรวจสอบข้อมูล ทางประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิดในพื้นที่ 89 แห่งในทุกรัฐชายฝั่งของสหรัฐอเมริกา ยกเว้นรัฐอลาสกา
การคาดการณ์การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงอย่าง รุนแรงในการศึกษาครั้งใหม่นี้ เกิดจากสิ่งที่เรียกว่าการส่ายไปมาในวงโคจรของดวงจันทร์ วัฏจักรการส่ายไปมาของดวงจันทร์จะเกิดขึ้นใน 18.6 ปีข้างหน้า จะทำให้เกิดกระแสน้ำขึ้นสูง ระดับน้ำจะท่วมถึงระดับสูงสุดเป็นประจำ ส่งผลให้น้ำขึ้นน้ำลงจะเกินเกณฑ์ระดับน้ำท่วมทั่วประเทศบ่อยขึ้น น้ำท่วมจะเกิดขึ้นเป็นกลุ่มๆ ซึ่งอาจอยู่ได้ครั้งละหนึ่งเดือนหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และโลก การวิจัยนี้จึงมีความสำคัญสำหรับนักวางผังเมืองชายฝั่ง อาจมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่การเตรียม พร้อมสำหรับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดโต่งจากน้ำท่วมเรื้อรัง.