• เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่เคยยืนยันว่า ผู้ติดโควิด-19 เป็นศูนย์ เพราะปิดประเทศตั้งแต่มกราคม 2020 แต่ไม่มีใครยืนยันข้อมูลชุดนี้
  • วันที่ 29 มิถุนายน สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่า ประธานาธิบดีคิม จอง อึน ออกมาตำหนิเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการโควิด-19 จนอาจทำให้ประชาชนอยู่ในความเสี่ยง
  • การปิดพรมแดนของเกาหลีเหนือเป็นไปเพื่อป้องกันผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ามา แต่ในทางหนึ่งก็ปิดกั้นความช่วยเหลือในด้านต่างๆ จากภายนอก ทำให้ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติที่รุนแรงขึ้น

เป็นประเด็นที่นานาชาติจับตามอง เมื่อสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานว่า ระหว่างการประชุมพรรคแรงงานเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีคิม จอง อึนแห่งเกาหลีเหนือ ออกมาตำหนิเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และกล่าวถึงความล้มเหลวในการรับมือกับโรคระบาด จนทำให้ประชาชนและประเทศชาติตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเกาหลีเหนืออาจมีจำนวนมากจนน่าวิตก

สื่อเกาหลีใต้ Yonhap New Agency อ้างรายงานของสื่อเกาหลีเหนือที่ระบุว่า “การเพิกเฉยต่อการตัดสินใจที่สำคัญของพรรคในสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติเพื่อต่อสู้กับไวรัส และการเตรียมรับมือกับวิกฤติสาธารณสุขระดับโลกของทางการนำไปสู่ ‘เหตุร้ายแรง’ ที่สร้างวิกฤติที่สะเทือนความปลอดภัยของชาติและประชาชน” โดยไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเกิดอะไรขึ้น และประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างไร พร้อมมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งต่างๆ เช่น คณะกรรมการและสมาชิกพรรคด้วย

เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่เคยยืนยันว่า ผู้ติดโควิด-19 เป็นศูนย์ เพราะปิดประเทศตั้งแต่มกราคม 2020 พร้อมกับรายงานกับองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จากการตรวจหาเชื้อในประชาชนมากกว่า 30,000 คน ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครยืนยันเรื่องนี้ ด้านเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาก็ตั้งข้อสงสัยต่อคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือเช่นกัน

ข้อสมมติฐานคือ หากมีโรคระบาดเกิดขึ้น ระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอของเกาหลีเหนือไม่สามารถรับมือได้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 เกาหลีเหนือยอมรับว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามาประเทศ และตำหนิว่าเป็นชาวเกาหลีเหนือหนีออกประเทศ และกลับเข้ามาจากเกาหลีใต้

ยุทธศาสตร์ป้องกันไวรัสประเทศด้วยการปิดพรมแดนส่งผลกระทบรุนแรงต่อชาวเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มคนยากจนที่สุด

ปัจจุบันเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในรอบ 73 ปี ท่ามกลางการขาดแคลนอาหาร ยา อัตราการว่างงาน และไร้บ้านกำลังเพิ่มสูงขึ้น เพราะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ การปิดพรมแดนทำให้เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือถดถอยมากขึ้นไปอีก จากเดิมที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับจีน ปัจจุบันการค้ากับจีนลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

ผลกระทบสำคัญคือการเข้าถึงเครื่องมือทางการเกษตรต่างๆ เช่น ปุ๋ย เครื่องจักร ทำให้ชาวเกาหลีเหนือเผชิญภาวะขาดแคลนอาหาร ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถนำเข้าอาหารและความช่วยเหลือจากต่างประเทศได้ นอกจากนี้รัฐบาลยังสั่งห้ามการรวมกลุ่มของประชาชนจำนวนมากเพื่อป้องกันการระบาด

เดิมเกาหลีเหนือคาดว่าจะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) จำนวน 2 ล้านโดสจากโครงการโคแวกซ์ (Covax) แต่ถูกลดเป็น 1.7 ล้านโดสภายหลัง ซึ่งจำนวนวัคซีนนี้ครอบคลุมประชากรเพียง 3.3 เปอร์เซ็นต์ของประเทศเท่านั้น แต่ปัญหาใหม่ขณะนี้คือ โครงการโคแวกซ์ประสบปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบ เกาหลีเหนือจึงยังไม่ได้รับวัคซีนในครึ่งปีแรกตามแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม นานาชาติพร้อมจะส่งวัคซีนไปช่วย หากประธานาธิบดีคิม จอง อึน ตอบรับความช่วยเหลือ

...