เมื่อเร็วๆนี้ผู้เชี่ยวชาญจากหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์เฮสติงส์ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ ในอังกฤษ ประกาศการค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลรอยเท้าจากไดโนเสาร์อย่างน้อย 6 สายพันธุ์ซึ่งถูกค้นพบตรงหน้าผาและบริเวณหน้าหาดที่โฟล์คสโตน เมืองท่าในมณฑลเคนต์ ของอังกฤษ ระบุว่าเป็นไดโนเสาร์กลุ่มสุดท้ายที่เดินบนแผ่นดินอังกฤษเมื่อ 110 ล้านปีก่อน
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่าพายุที่พัดเข้ามากระทบหน้าผาและน่านน้ำชายฝั่ง ทำให้พบซากฟอสซิลใหม่ๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พบรอยเท้าไดโนเสาร์ในพื้นที่การก่อตัวของหินโฟล์คสโตน และเป็นการค้นพบที่พิเศษ เพราะไดโนเสาร์เหล่านี้เป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินเตร็ดเตร่ใกล้กับพื้นที่ที่ปัจจุบันคือหน้าผาสีขาวแห่งโดเวอร์ ก่อนที่พวกมันจะสูญพันธุ์ไป รอยเท้าดังกล่าวเป็นของไดโนเสาร์หลายชนิด มีทั้งแองคิโลซอรัส ไดโนเสาร์หุ้มเกราะ, เธอโรพอด ไดโนเสาร์กินเนื้อ เช่น ไทแรนโนซอรัส เร็กซ์, ออนิโธพอดส์ ไดโนเสาร์ปากเป็ด เดิน 2 ขา กินพืช ส่วนรอยเท้าที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดกว้าง 80 เซน-ติเมตร ยาว 65 เซนติเมตร ระบุว่าเป็นของไดโนเสาร์ที่มีลักษณะคล้ายอิกัวโนดอน ที่อยู่ในกลุ่มไดโนเสาร์กินพืช เติบโตได้สูงถึง 10 เมตร เดินด้วย 2 ขาหรือ 4 ขา รอยเท้าเหล่านี้ชี้ว่าไดโนเสาร์มีความหลากหลายค่อนข้างสูงในทางตอนใต้ของอังกฤษในช่วงท้ายๆ ของยุคครีเตเชียสตอนต้น เมื่อ 110 ล้านปีก่อน
การค้นพบไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ มากมายในที่เดียวเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ไดโนเสาร์เหล่านี้อาจใช้ประโยชน์จากคลื่นที่โผล่ขึ้นมาบนชายฝั่งทะเล บางทีอาจหาอาหารหรือใช้ประโยชน์เป็นเส้นทางอพยพ.