รัฐมหาราษฏระ รัฐที่มั่งคั่งที่สุดของอินเดีย สั่งปิดห้างสรรพสินค้า และโรงภาพยนตร์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์เดลตาพลัส ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
รัฐมหาราษฏระของอินเดีย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์เดลตาพลัสแล้วอย่างน้อย 20 ราย จากทั้งหมด 48 รายทั่วประเทศ ส่งผลให้ทางการต้องกลับมาพิจารณาถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง และสั่งปิดห้างสรรพสินค้า และโรงภาพยนตร์ในเบื้องต้นก่อน โดยจนถึงขณะนี้ ทางหน่วยงานสาธารณสุขยังไม่ทราบที่มาของการติดเชื้อกลายพันธุ์ครั้งนี้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาวุโสของรัฐมหาราษฏระระบุว่า ถึงแม้อัตราการติดเชื้อรายวันจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในบางพื้นที่กลับเริ่มพบว่ามีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า สาเหตุหลักเกิดจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือเป็นเพราะการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ โดยในขณะนี้พบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ เดลตาพลัสแล้วในอย่างน้อย 11 ประเทศ
โควิดกลายพันธุ์เดลตา พลัส ถูกพบครั้งแรกในอินเดียเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์เดลตาที่พบในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลอินเดียประกาศว่า การกลายพันธุ์ดังกล่าวเป็นการกลายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล เพราะชาวอินเดียอีกมากกว่าครึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน โดยมีประชากรวัยผู้ใหญ่เพียง 5.6 เปอร์เซ็นต์ จากประชากรวัยผู้ใหญ่ 950 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ส่วนในรัฐมหาราษฏระที่มีประชากร 126 ล้านคน มีเพียงแค่ 30 ล้านคนเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว
...
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเชื้อกลายพันธุ์ดังกล่าวอาจจะเป็นตัวการหลักสำคัญที่ทำให้ผู้ติดเชื้อในอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกิดการระบาดระลอกใหม่ จนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรับมือไหว หลังจากที่อินเดียเพิ่งฟื้นตัวจากการระบาดระลอก 2 ได้ไม่นาน ซึ่งล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ยังอยู่ระหว่างเร่งศึกษาวิจัย ว่าวัคซีนที่ใช้งานอยู่จะรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ เดลตาพลัสได้หรือไม่ คาดว่าจะทราบผลใน 7-10 วันนี้
ทั้งนี้ อินเดีย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 51,667 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1,329 ศพ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 30.13 ล้านคน และเสียชีวิตสะสม 393,310 ศพ.
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย