- สิงคโปร์ฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนประชากรทั้งหมด 5.7 ล้านคน
- รัฐบาลสิงคโปร์ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้าจาก 3 บริษัท ได้แก่ ไฟเซอร์-ไบออนเทค โมเดอร์นา และซิโนแวค (Sinovac) แต่เลือกใช้เฉพาะวัคซีนของ ไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา เท่านั้น
- ประชาชนสิงคโปร์มีสิทธิ์เลือกได้ว่าต้องการฉีดวัคซีนจากบริษัทใด
เมื่อต้นสัปดาห์ นิตยสาร Bloomberg จัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่รับมือกับโรคโควิด-19 (The Covid Resilience) ได้ดีที่สุด นำหน้านิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
เกณฑ์การประเมิน นอกจากอัตราการเสียชีวิต สัดส่วนการได้รับวัคซีนของประชาชน Bloomberg ยังพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในประเทศระหว่างล็อกดาวน์ การเคลื่อนย้ายของผู้คนในร้านค้าและพื้นที่สำนักงาน รวมถึงหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุม
สิ่งที่ทำให้สิงคโปร์เอาชนะสองชาติ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย คือสัดส่วนการฉีดวัคซีนต่อประชากร
สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน สิงคโปร์ฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนประชากรทั้งหมด 5.7 ล้านคน และทั้งหมดเป็นวัคซีนชนิด mRNA จากบริษัท ไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer/BioNTech) และ โมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
และตั้งแต่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนของบริษัทใด
รัฐบาลสิงคโปร์ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้าจาก 3 บริษัท ได้แก่ ไฟเซอร์-ไบออนเทค โมเดอร์นา และ ชิโนแวค (Sinovac) ในขณะที่วัคซีนยังอยู่ในช่วงทดลองระยะที่ 3 โดยรัฐบาลให้เหตุผลว่า การสั่งซื้อล่วงหน้าเพื่อจัดหาวัคซีนมาให้ประชาชนเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ทำให้สิงคโปร์เริ่มฉีดเข็มแรกตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2021
ส่วนการซื้อวัคซีนจากหลายบริษัทก็เพื่อเป็นการป้องกันว่าอาจมีวัคซีนตัวใดตัวหนึ่งไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 สิงคโปร์ได้รับวัคซีนซิโนแวค 200,000 โดส ที่สั่งซื้อไว้ล่วงหน้า แต่เนื่องจากบริษัทไม่ยื่นข้อมูลมากพอเพื่อขออนุญาตให้ใช้ได้ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์จึงไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัย ในที่สุด วัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนในสิงคโปร์จึงเหลือแค่ 2 บริษัทที่พร้อมส่งข้อมูลทันที
เมื่อถูกตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงปล่อยให้ซิโนแวคส่งวัคซีนมาถึงก่อนการอนุมัติ กระทรวงสาธารณสุขชี้แจงเหตุลว่า เพื่อไม่ให้รัฐบาลจีนไม่พอใจ
ลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) หนึ่งในรัฐมนตรีจากคณะทำงานรับมือโควิด-19 กล่าวว่า สิงคโปร์จะไม่ใช้วัคซีนซิโนแวค จนกว่าจะได้รับการอนุมัติ เพราะ “เราต้องการแสดงให้ชาวสิงคโปร์เห็นว่า วัคซีนได้รับการประเมินอย่างสมบูรณ์ที่สุด ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและความปลอดภัย”
กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพื้นที่ฉีดวัคซีนไว้ 38 แห่ง มี 11 แห่งเป็นวัคซีนของโมเดอร์นา ที่เหลือเป็นวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค ผู้เข้ารับวัคซีนซึ่งครอบคลุมทั้งพลเมืองสิงคโปร์และผู้พำนักระยะยาวสามารถดูรายชื่อศูนย์กระจายวัคซีนและเลือกบริษัทตามต้องการได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นลงทะเบียนและนัดหมายเวลา ซึ่งรัฐบาลจะจัดลำดับตามความสำคัญเป็นรอบ โดยขณะนี้จำกัดที่กลุ่มผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป และจะยืนยันผ่าน SMS ทางโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้เว็บไซต์ของกระทรวงให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนทั้ง 2 บริษัทสำหรับการตัดสินใจ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลออกโครงการช่วยเหลือทางการเงินสำหรับกรณีแพ้วัคซีนรุนแรง ผู้แพ้วัคซีนต้องกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียง และข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน หรือไม่ เป็นรายบุคคล กระทรวงจะจ่ายเงินให้กับผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษา 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ (50,000 บาท) ผู้ที่ต้องรักษาตัวในห้องไอซียู 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (250,000 บาท) และ 225,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (550,000 บาท) สำหรับผู้พิการหรือเสียชีวิต โดยเป็นเงินเพิ่ม นอกเหนือจากการรักษาพยาบาลที่รัฐบาลออกให้อยู่แล้วจากระบบประกันสุขภาพ
...
อ้างอิง: