เมื่อ 26 เม.ย. กระทรวงต่างประเทศโรมาเนียเผยว่า เตรียมขับนายอเล็กเซ กริชาเยฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโรมาเนียออกนอกประเทศ ด้วยการกระทำและกิจกรรมอื่นใดที่ขัดต่อสนธิสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต หลังถูกกล่าวโทษว่าเป็นสายลับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีฟลอริน ซิตู แห่งโรมาเนีย กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ว่า การตัดสินใจครั้งนี้อย่าไปตีความว่าเป็นการโต้ตอบในทิศทางเดียวกันของกลุ่มประเทศในยุโรป แต่นี่เป็นวิถีการตัดสินใจของโรมาเนียเอง ไม่เกี่ยวว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศอื่น

อย่างไรก็ตาม โรมาเนียก็กลายเป็นประเทศล่าสุดในกลุ่มยุโรปที่ปฏิบัติต่อรัสเซีย หลังความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างสาธารณรัฐเช็กกับรัสเซีย ด้วยข้อกล่าวโทษว่าทูตรัสเซียเป็นสายลับและอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดคลังแสงของสาธารณรัฐเช็กเมื่อปี 2557 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายฮัน ฮามาเค็ก รัฐมนตรีมหาดไทยสาธารณรัฐเช็ก ขอให้ทางสหภาพยุโรป (อียู) กับพันธมิตรกลุ่มสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) พร้อมใจกันขับทูตรัสเซีย ซึ่งสโลวะเกีย ประเทศเพื่อนบ้าน รวมกลุ่มประเทศบอลติก ทั้งเอสโตเนีย ลัตเวียและลิทัวเนีย ประกาศว่าจะขับทูตรัสเซีย 7 คนออกนอกประเทศ.

(ภาพ) นายกรัฐมนตรีฟลอริน ซิตู แห่งโรมาเนีย