สำนักพระราชวังบั๊กก้ิงแฮมแห่งราชวงศ์ อังกฤษ แถลงข่าวเศร้าสลดอย่างเป็นทางการ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ พระสวามีสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ด้วยพระชนมายุ 99 พรรษา ที่ปราสาทวินด์เซอร์ แคว้นเบิร์กเชียร์ เผยพระองค์อยู่เคียงข้างควีนเอลิซาเบธที่ 2 ตลอดระยะเวลา 73 ปี ถือเป็นพระสวามีที่รับใช้ประมุขแห่งอังกฤษอย่างยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. สำนักพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม แห่งราชวงศ์อังกฤษ แถลงข่าวเศร้าสลดอย่างเป็นทางการว่าด้วยความเสียพระทัยอย่างยิ่งของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่จะแจ้งให้ทราบ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ พระสวามีผู้เป็นที่รักยิ่งในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นพระชนม์อย่างสงบ เมื่อช่วงเช้าที่ปราสาทวินด์เซอร์ แคว้นเบิร์กเชียร์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน สิริพระชนมายุ 99 พรรษา สำหรับคำชี้แจงเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบเป็นการต่อไป ขณะที่สมาชิกราชวงศ์ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้คนทั่วโลกในการแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปครั้งนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ก่อนหน้านี้อาการพระวรกายของเจ้าชายฟิลิปได้ถดถอยลงมาอย่างต่อเนื่อง พระองค์ทรงประกาศถอนตัวจากการประกอบพระราชกรณียกิจเมื่อปี 2560 นับแต่นั้นมาก็แทบไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ที่พระตำหนักแซนดริงแฮม ในแคว้นนอร์ฟอล์ก และปราสาทวินด์เซอร์ในแคว้นเบิร์กเชียร์ ทรงรับการผ่าตัดพระโสนี (สะโพก) เมื่อปี 2561 ในช่วงก่อนพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ทรงประสบอุบัติเหตุขับรถชนในปี 2562 และเมื่อช่วงเดือน มี.ค. พระองค์ทรงเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ รักษาพระอาการเส้นเลือดอุดตัน รวมถึงรักษาพระวรกายในโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ดที่ 7 และเซนต์ บาร์โธโลมิว ในกรุงลอนดอน เป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ ระหว่างนั้นมีรายงานพระอาการติดเชื้อแทรกซ้อน

...

ทั้งนี้ สื่อมวลชนในอังกฤษยกย่องพระองค์ว่า เป็นผู้ช่วยราชวงศ์อังกฤษปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย หลังเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษพระองค์แรกที่ให้ สัมภาษณ์ออกอากาศทางโทรทัศน์ มีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินี เอลิซาเบธที่ 2 ให้มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เมื่อปี 2496 รวมถึงจัดทำสารคดีเกี่ยวกับสมาชิกราชวงศ์อังกฤษในปี 2512

แม้พระองค์จะเป็นสมาชิกราชวงศ์ แต่ชีวิตประสบความยากลำบากตั้งแต่วัยเด็ก ประสูติในนามเจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2464 บนเกาะ คอร์ฟู ประเทศกรีซ พระบิดาคือเจ้าชายแอนดรูว์แห่งกรีซ (เป็นพระราชโอรสองค์เล็กของสมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ) ส่วนพระมารดา คือเจ้าหญิงอลิซ แห่งแบทเทนเบิร์ก เป็นธิดาองค์โตของเจ้าชายหลุยส์แห่งแบทเทนเบิร์ก และน้องสาวของเอิร์ลเมาท์แบทเทน แห่งพม่า แต่หลังจากการปฏิวัติรัฐประหารในปี 2465 พระบิดาถูกศาลปฏิวัติขับไล่ออกจากประเทศกรีซ พระองค์ต้องหลบหนีออกนอกประเทศด้วยการซ่อนตัวอยู่ในลังผลส้ม ก่อนไปอยู่ในประเทศฝรั่งเศส และย้ายมายังประเทศอังกฤษ เมื่อพระชนมายุ 7 พรรษา อาศัยอยู่กับญาติสายเมาท์แบทเทน ซึ่งเอิร์ลเมาท์แบทเทนประกาศรับเป็นบุตรบุญธรรม

ต่อมาเจ้าชายฟิลิปถูกส่งไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนี และประเทศสกอตแลนด์ ก่อนเข้าวิทยาลัยนายร้อยราชนาวีที่เมืองดาร์ทมัธ ซึ่งระหว่างทรงเป็นนักเรียน พระองค์รับมอบหมายให้คุ้มกันเจ้าหญิงองค์น้อยทั้ง 2 คือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ และเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต ในสมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จที่ 6 ระหว่างเสด็จเยี่ยมชมวิทยาลัย การพบกันดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ วัย 13 พรรษาเป็นอย่างมาก ต่อมาทั้งสองพระองค์ทรงคบหาดูใจกันอย่างเป็นทางการ และทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสในปี 2490 หลังเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระองค์อยู่เคียงข้างสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เป็นเวลา 73 ปี ถือเป็นพระสวามี ที่รับใช้ประมุขแห่งอังกฤษอย่างยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร

เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาร่วมกับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 รวมทั้งหมด 4 พระองค์ คือเจ้าฟ้าชายชาร์ล เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าหญิงแอน พระราชกุมารี เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์ มีพระราชนัดดา รวม 8 พระองค์ ในจำนวนนี้มีเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งแคมบริดจ์และเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มีพระราชปนัดดา รวม 10 พระองค์ ในจำนวนนี้มีเจ้าชายจอร์จแห่งแคมบริดจ์ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งแคมบริดจ์ เจ้าชายหลุยส์แห่งแคมบริดจ์ ในเจ้าชายวิลเลียม และอาร์ชี เมาท์แบทเทน วินด์เซอร์ โอรสในเจ้าชายแฮร์รี