ถือเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่สั่นคลอนสถาบันได้สะเทือนเลื่อนลั่นที่สุด เมื่อ สะใภ้เจ้า “เมแกน มาร์เคิล” ออกมาโอดครวญกับชาวโลกว่าถูกราชวงศ์อังกฤษเหยียดสีผิว!! แม้จะมีการออกแถลงการณ์จากควีนเอลิซาเบธที่สองแสดงความเห็นใจเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน พร้อมให้คำมั่นว่าปัญหาเรื่องการเหยียดสีผิวจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว แต่เอาเข้าจริงๆแล้วการเหยียดเชื้อชาติก็ไม่ใช่ของใหม่สำหรับพระราชวงศ์อังกฤษเลย จึงไม่มีอะไรน่าเซอร์ไพรส์!!

สมัยเป็นวัยรุ่น “เจ้าชายแฮร์รี” ก็สร้างวีรกรรมเหยียดสีผิวและเหยียดเชื้อชาติเอาไว้เยอะ หนักสุดจนขึ้นหน้าหนึ่งแท็บลอยด์ทุกฉบับก็ตอนแต่งชุดทหารนาซีติดเครื่องหมายสวัสติกะไปร่วมงานปาร์ตี้แฟนซี เมื่อปี 2005 ตามมาด้วยคลิปฉาวที่ โดนประณามไปทั่วโลก เมื่อ “เจ้าชายแฮร์รี” ล้อเลียนดูหมิ่นเหยียดหยามคนเชื้อสายเอเชีย, อาหรับ และชาวมุสลิม

โดยขณะถ่ายเพื่อนทหารนอนรอเครื่องบินกองทัพอากาศรับไปฝึกในไซปรัส เมื่อหันกล้องไปเจอทหารหนุ่มเชื้อสายเอเชียใต้ เจ้าชายตะโกนอย่างคะนองปากว่า ดูสิมีใครอยู่แถวนี้บ้าง โอ้ว!! นั่นไงเพื่อนปากีตัวน้อยของเรา “อาเหม็ด” ในสังคมอังกฤษรู้ดีว่าการใช้คำว่า “ปากี” เป็นคำดูหมิ่นคนเชื้อสายเอเชียใต้จากยุคอาณานิคม

อีกคลิปที่บันทึกโดยพระสหายของเจ้าชายหลังเดินทางไปถึงไซปรัสแล้ว ก็เลวร้ายไม่แพ้กัน ขณะที่ “เจ้าชายแฮร์รี” กำลังหยอกล้อกับเพื่อนร่วมหน่วยที่เอาผ้ามาคลุมหัว ทำให้พลั้งปากออกไปว่า แดนให้ตายเถอะ นายดูเหมือนพวกแร็กเฮดจริงๆ คำว่า “แร็กเฮด” หมายถึงไอ้แขกโพกหัว เป็นคำที่คนอังกฤษใช้พูดเหยียดหยามคนเชื้อสายอาหรับ-มุสลิมอย่างรุนแรง ในคลิปชุดเดียวกันเจ้าชายยังตรัสล้อเลียนพระอัยยิกา “ควีนเอลิซาเบธที่สอง” เป็นที่สนุกสนานด้วย งานนี้สำนักพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมต้องเร่งออกแถลงการณ์แก้ต่างให้เจ้าชายแฮร์รี โดยอ้างว่าเจ้าชายพูดโดยไม่คิดและไม่มีเจตนาร้ายใดๆ ที่คิดจะแบ่งแยกหรือกีดกันทางเชื้อชาติ

...

หลังเสกสมรสกับนางเอกสาวชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน “เจ้าชายแฮร์รี” ได้ออกมายอมรับว่า ในอดีตการเกิดมาเป็นสมาชิกชั้นสูงของราชวงศ์ ทำให้พระองค์ไม่มีความเข้าใจถึงอคติด้านเชื้อชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทรงต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเข้าใจ และเริ่มตกผลึกมากขึ้นเมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับ “เมแกน” ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ ยิ่งเจ็บจี๊ดเมื่อภรรยากับลูกชายตัวเองโดนเหยียดสีผิวจากคนในครอบครัว

อีกหนึ่งพระราชวงศ์ชั้นสูงของอังกฤษ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความพลั้งปาก ชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นจนส่อเค้าของการเหยียดเชื้อชาติ จะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก ดยุกแห่งเอดินเบอระ “เจ้าชายฟิลิป” พระสวามีของควีนเอลิซาเบธที่สอง เรื่องนี้ถูกนำมาขยายเป็นข่าวหลายหน ถึงขนาดมีการรวบรวมวลีเด็ดที่ “เจ้าชายฟิลิป” เคยสร้างวีรกรรมไว้กระฉ่อนเมือง เช่น ตอนเสด็จเยือนประเทศจีน พร้อมองค์ควีน เมื่อปี 1986 รับสั่งกับนักเรียนแลกเปลี่ยนอังกฤษในเมืองซีอานว่า “ถ้าพวกหนูอยู่เมืองจีนไปอีกสักพัก คงได้ตาตี่เป็นหมวยจีนกันหมดแน่” อีกครั้งเป็นตอนที่เจอกับประธานาธิบดีไนจีเรีย ซึ่งปรากฏกายในชุดประจำชาติ “เจ้าชายฟิลิป” รับสั่งหน้าตาเฉยว่า ท่านประธานาธิบดีดูเหมือนคนกำลังจะเข้านอนเลย!!

ไม่ว่าจะออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจยังไง แต่ราชวงศ์อังกฤษรู้ดีอยู่เต็มอกว่าเรื่องการเหยียดเชื้อชาติเป็นประเด็นอ่อนไหวที่พร้อมทิ่มแทงสถาบันตลอดเวลา เพราะอังกฤษมีชนักปักหลังเยอะเกี่ยวกับการล่าอาณานิคม และค้าขายทาส มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยในยุคที่จักรวรรดิอังกฤษรุ่งเรืองที่สุด จนกลายเป็นมหาอำนาจด้านการล่าอาณานิคม ถึงขนาดมีวลีเด็ดสะท้อนความยิ่งใหญ่เกรียงไกรว่า “ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดินในจักรวรรดิบริติช” เพราะอังกฤษยึดครองดินแดนไว้ได้ทั่วทุกมุมโลก และเมื่อบุกไปยึดที่ไหนก็จะกวาดต้อน

คนพื้นเมืองมาเป็นแรงงานทาส ไล่ตั้งแต่ทวีปอเมริกาเหนือ, หมู่เกาะเล็กๆแถบแคริบเบียน ไปจนถึงอินเดีย...คิดจะลบประวัติศาสตร์สร้างภาพใหม่คงทำกันไม่ได้ง่ายๆ!!

มิสแซฟไฟร์