- สหรัฐฯเละ โกลาหลที่สุด น่าเสียใจและน่าอับอายที่สุด ม็อบสนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา ขวางสภาคองเกรสรับรองไบเดน เป็นปธน.ใหม่
- ดับ 5 ม็อบบุกอาคารรัฐสภา ขณะที่ทรัมป์ยังยกย่อง จนถูกทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กบล็อกบัญชีใช้งานชั่วคราว ก่อนต่อมาทวิตเตอร์จะแบนทรัมป์อย่างถาวร
- รองปธน.ไมค์ เพนซ์ ประณาม บอกเป็นวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐสภา ขณะสภาคองเกรสกลับมาประชุมต่อ รับรองไบเดน เป็น ปธน.คนใหม่แล้ว
ม็อบบุกสภา ดับ 5 เจอไปป์บอมบ์ 2 ลูกในอาคารรัฐสภา
ถือเป็นความโกลาหลขั้นสูงสุด เละที่สุด น่าเสียใจที่สุด เท่าที่ชาวอเมริกันและชาวโลกเคยเห็นมาเลยก็ว่าได้ สำหรับเหตุการณ์ม็อบสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำลายกระบวนการประชาธิปไตย บุกปีนป่ายเข้าไปในอาคารรัฐสภา กลางกรุงวอชิงตัน ดี. ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธที่ 6 ผ่านมา เพื่อพยายามขัดขวางสภาคองเกรสรับรองชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน
...
น่าสะเทือนใจมากขึ้นเมื่อเหตุจลาจล ม็อบเชียร์ทรัมป์ฝ่าแนวกั้นของตำรวจบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ในจำนวนนี้ เป็นตำรวจประจำรัฐสภา 1 นายและมีคนถูกจับกุมอย่างน้อย 50 คน โดยแอชลี แบ็บบิต วัย 35 ปี อดีตทหารผ่านศึกหญิงในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ชาวเมืองซานดิเอโก เป็นผู้เสียชีวิตรายแรก หลังจากเธอถูกกระสุนปืนเข้าที่หน้าอก เบื้องต้นยังไม่ทราบใครเป็นคนยิง แต่คาดว่าเธออาจถูกตำรวจยิงขณะพยายามเป็นผู้หนึ่งที่ปีนช่องหน้าต่างใกล้กับห้องประชุมสภา หลังจากกระจกหน้าต่างแตก
ทางการสหรัฐฯได้ส่งหน่วยสวาท หน่วยทหารรบพิเศษเข้ามาควบคุมสถานการณ์รุนแรง และเมื่อหลังจากเหตุจลาจลรุนแรงสงบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปราบจลาจลที่เข้าเคลียร์พื้นที่ ยังได้พบไปป์บอมบ์ 2 ลูกใกล้บริเวณสนามหญ้าในอาคารรัฐสภา นอกจากนั้นยังพบรถกระบะเต็มไปด้วยปืนยาวหลายกระบอกและระเบิดมือหลายลูกด้วย
ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ได้ออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเวลา 15 วัน จนถึงวันที่โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคม
...
วันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของสภาคองเกรสของสหรัฐฯ
'เราขอประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นที่นี่อย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ วันนี้ถือเป็นวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐสภาสหรัฐฯ' ไมค์ เพนซ์ กล่าวด้วยความเสียใจและผิดหวังต่อเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ขณะสมาชิกสภาคองเกรสได้กลับมาประชุมกันอีกครั้ง หลังจากเหตุรุนแรงสงบลง มีการส่งหน่วยสวาทเข้ามาสลายม็อบและควบคุมสถานการณ์
...
ทรัมป์ ยกย่องม็อบบุกอาคารรัฐสภา หลังย้ำโดนขโมยชัยชนะ
เหตุรุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ได้ปราศรัยบอกฝูงชนที่มาร่วมชุมนุมประท้วงที่หน้าทำเนียบขาว ว่า ให้หยุดการขโมยชัยชนะ (Stop the Steal) พร้อมกับเรียกร้องให้ม็อบเหล่านี้เดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่สภาคองเกรสจะมีการร่วมประชุมรับรองโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่
หลังเกิดเหตุจลาจลรุนแรง ทรัมป์ได้ทวีตข้อความไปยังชาวอเมริกันที่สนับสนุนตนว่าให้รักษาความสงบ ก่อนต่อมาจะทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ ยกย่องม็อบและบอกรักบรรดาผู้สนับสนุน แต่ขณะเดียวกันทรัมป์ก็ขอให้ม็อบกลับบ้าน จนทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กต้องบล็อกแอคเคาต์บัญชีใช้งานของทรัมป์ชั่วคราว
...
ทวิตเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญของทรัมป์ที่ใช้สื่อสารกับผู้สนับสนุนมาโดยตลอด ได้บล็อกแอคเคาต์บัญชีใช้งานของทรัมป์ 12 ชั่วโมง นั่นหมายถึง ทรัมป์หมดสิทธิที่จะทวีตข้อความใดๆ ทางทวิตเตอร์จนถึงวันพฤหัสฯที่ 7 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น และต่อมา ได้สั่งแบนทรัมป์อย่างถาวร
สภาคองเกรสยืนยัน รับรอง โจ ไบเดน เป็น ปธน.แล้ว
หลังเหตุจลาจลผ่านพ้นไป ในที่สุด สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้ยืนยัน รับรองโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้ง ด้วยคะแนน 306 ต่อ 232 คะแนน ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา และจะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม นี้
ผู้เขียน : เวนิส