สวัสดีปีใหม่ 2564 เปิดใจ นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 เปิดฟ้าส่องโลกจะเป็นคอลัมน์ประจำในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐมาครบ 24 ปี พุทธศักราชนี้เป็นปีแรกที่ปีใหม่จะเงียบเหงาเศร้าสร้อยไปทั้งโลก ด้วยฤทธิ์ของโควิด-19
สองทศวรรษที่ผ่านมา เปิดฟ้าส่องโลกและเปิดฟ้าภาษาโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เราผ่านวิกฤติโลกมามากมายหลากหลาย แต่ก็ไม่มีวิกฤติใดที่มีอำนาจล้างผลาญชีวิตและทรัพย์สินของมนุษยชาติได้มากเท่ากับวิกฤติโควิด-19
ผู้รอดจากวิกฤติโควิด-19 ต้องป้องกันตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยไปตลอดทั้ง 365 วันต่อจากวันนี้ไป ผมหวังว่าอนาคตอันใกล้ มนุษย์จะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และมนุษย์ทุกคนสามารถจะเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมกัน เมื่อวันนั้นมาถึง โลกก็จะกลับมาสวยสดงดงามดั่งเดิม
ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ปลายปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีวิกฤติโควิด-19 ผมเขียนฉบับปีใหม่ พ.ศ.2563 ไว้ว่า...
“การเปลี่ยนแปลงของโลกใน พ.ศ.2563 จะแรงขึ้น สิ่งหนึ่งซึ่งจะช่วยให้พวกเราอยู่รอดปลอดภัยได้ก็คือ ความไม่ประมาท...
“ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส กิจฺจกโร สิยา นโร น จ มชฺเช” เพราะฉะนั้น ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ทุกคนควรกระทำกิจหน้าที่ และไม่พึงประมาท”
ปีนี้ พ.ศ.2564 ผมขอย้ำคำและประโยคเดิม ขอให้ทุกท่านตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
ศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2564 คณะผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกและเปิดฟ้าภาษาโลกขอส่งความสุข ความปรารถนาดีมายังท่าน
ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และพระบารมีแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งราชอาณาจักรไทยทุกพระองค์
...
โปรดดลบันดาลประทานพรให้ผู้อ่านท่านผู้เจริญ เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีแต่ความสุขสมบูรณ์พูนผลด้วยสิ่งพึงปรารถนาทุกประการเทอญ.
*****
1. โลกเคยเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ เป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ระหว่าง ค.ศ.1929-1939 เป็น 10 ปีที่โลกประสบภาวะถดถอยเป็นเวลายาวนาน และหยั่งรากลึกกว่าครั้งใดๆ เสียงโอดโอยโหยหวนของมนุษย์ในห้วง 10 ปีที่ว่า ดังระงมไปทุกตรอกซอกมุมโลก
2. วิกฤติใหญ่ถัดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่คือ สงครามโลกครั้งที่ 2 ค.ศ.1939-1945 ทำให้ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรเสียชีวิตถึง 16 ล้านนาย พลเรือน 45 ล้านคน ส่วนฝ่ายอักษะมีทหารเสียชีวิต 8 ล้านนาย พลเรือน 4 ล้านคน รวมการสูญเสียของมนุษย์ในช่วง 6 ปี มีมากกว่า 73 ล้านคน
3. หลังจากนั้น โลกก็มีวิกฤติเล็กๆน้อยๆ วิกฤติส่วนใหญ่กระทบเพียงภูมิภาคหรือทวีป จนกระทั่งมกราคม 2563 มนุษย์เริ่มได้ยินคำว่าโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 ตามด้วยคำว่าโควิด-19 เวลาเพียงแค่ 1 ปีมีมนุษย์ติดโรคนี้ถึง 77 ล้านคน และตายไปเกือบ 2 ล้านคน กระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และระบบสาธารณสุข มากกว่าวิกฤติใดๆในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่
4. ค.ศ.1720 หรือเมื่อ 300 ปีที่แล้ว มีโรคระบาดที่ติดต่อจากสัตว์มาสู่คนชื่อว่า กาฬโรค สมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดียและการสื่อสารอื่นที่ทันสมัย แต่เฉพาะที่เมืองมาร์เซย์ ฝรั่งเศส เพียงแห่งเดียว มีคนตายกว่า 1 แสนคน ความตายระบาดไปทั้งโลก จนกระทั่งมนุษย์ขนานนามโรคระบาดนี้ว่า มฤตยูดำ หรือ Black Death
5. 100 ปีถัดมาคือ ค.ศ.1820 ห่าหรืออหิวาตกโรคระบาดใหญ่ในเอเชีย ตามด้วยไข้หวัดสเปนในอีก 100 ปีต่อมาคือ ค.ศ.1920 มีผู้ป่วยมากถึง 500 ล้านคน เฉพาะช่วง 25 สัปดาห์แรกมีคนตายไปมากถึง 25 ล้านคน รวมแล้วตายไปประมาณ 40 ล้านคน ไข้หวัดใหญ่เอเชีย เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ.1965-1967 ที่เริ่มกำเนิดเกิดในประเทศจีน ทำให้คนตายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก ค.ศ.1968 โลกมีไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง ทำให้คนตายไปมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนเอชไอวีระบาดตั้งแต่ ค.ศ.1981 จนถึงปัจจุบัน และระบาดสูงสุดในช่วง ค.ศ.2005-2012 คนตายไปทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 36 ล้านคน
6. โรคระบาดที่อุบัติขึ้นมาแต่ละครั้ง ทำให้ประชาชนคนทั่วไประมัดระวังเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น คนสนใจในเรื่องอาหารและน้ำที่สะอาด ปลอดภัย ทำให้หนงฟู่ สปริง ที่ชูจุดเด่นเรื่องแหล่งน้ำธรรมชาติ เทาแซนด์ ไอส์แลนด์ เลค ในมณฑลเจ้อเจียงที่ใหญ่และสะอาดที่สุดในจีน ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่เดิมบริษัทหนงฟู่ สปริง ก็มีชื่อเสียงในสาธารณรัฐประชาชนจีนอยู่แล้ว แต่หลังจากโควิด-19 ทำให้นายจง ซานซาน เจ้าของบริษัทน้ำดื่มหนงฟู่ สปริง กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดหลายล้านล้านบาท
...
7. ครึ่งหลังของ ค.ศ.2020 มีข่าวแพลมออกมาเรื่อยๆ เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีมหาอำนาจหลายประเทศเคลมว่าวัคซีนที่ผลิตในประเทศตัวเองสามารถป้องกันโควิด-19 ได้ดีที่สุด นำความหวังมาสู่มวลมนุษยชาติ หลายคนจินตนาการถึงการฟื้นตัวของธุรกิจและเศรษฐกิจใน ค.ศ.2021
8. ทว่า ปลาย ค.ศ.2020 ความหวังที่จะมีวัคซีนที่จะมีประสิทธิภาพปราบโควิด-19 ได้อยู่หมัดก็ลดน้อยถอยลง เมื่อผู้ที่ได้รับวัคซีนบางคนเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหราชอาณาจักรที่ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ แต่ผู้คนก็ยังมีความหวังว่าการพัฒนาไปสู่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ปลอดภัยจะสำเร็จใน ค.ศ.2021
9. โควิด-19 ทำให้มนุษย์ไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างสะดวกสบายเหมือนเดิม ธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับการเดินทางล้มละลาย โดยเฉพาะธุรกิจการบินข้ามประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศมีมาตรการกักกันผู้คนที่เดินทางมาจากที่อื่น เดิมโลกพึ่งพาอาศัยระบบออนไลน์ แต่โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้การประกอบธุรกิจ ธุรกรรม และการติดต่อสื่อสารทางออนไลน์เพิ่มทวีคูณ โรงงานมากมายหลายแห่งลดการใช้แรงงานมนุษย์ซึ่งสามารถเป็นพาหะของโรคโควิด-19 และโรคติดต่ออื่นๆ มาใช้หุ่นยนต์ ธุรกิจโปรแกรมการประชุมบูมตูมตาม ผู้คนลดการไปเดินห้างหรือทานอาหารตามภัตตาคาร และธุรกิจดีลิเวอรีอาหารเติบโตมากมายหลายเท่าตัวทุกแห่ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดต่อโดยตรงระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์
...
10. หลายองค์กรในหลายประเทศตั้งทีมเพื่อรวบรวมข้อมูลและทำนายทายทักแนวโน้มของวิถีชีวิตในอนาคตที่มนุษย์จะต้องอยู่กับวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมาเมื่อ ค.ศ.2020 และมีแนวโน้มจะอยู่ต่อไปใน ค.ศ.2021
11. มนุษย์จะอยู่กับสิ่งที่เป็นโลกเสมือนขนานไปกับโลกแห่งความเป็นจริง ครอบครัว องค์กร หรือประเทศใดที่ไม่สามารถปรับตัวได้ ไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่หรือประมาทในการดำเนินชีวิต ก็อาจจะประสบความล้มเหลวทั้งด้านธุรกิจและครอบครัว
12. โควิด-19 ทำให้นึกถึงโลกในยุคไดโนเสาร์ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สัตว์ขนาดเล็กยังอยู่รอดปลอดภัยและ
สืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน สัตว์ใหญ่โตมโหฬารอุ้ยอ้ายเทอะทะ สุดท้ายไปไม่รอด ต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ปัจจุบันเหลือไว้เพียงโครงกระดูกเพื่อบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตประเภทนี้เคยอยู่ร่วมโลกกับเราในอดีตเท่านั้น
13. องค์กรที่ปรับตัวได้ง่ายจะอยู่รอดปลอดภัยใน ค.ศ.2021.
โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย