กองทัพของอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจานใช้อาวุธหนักโจมตีตอบโต้กันในเรื่องพื้นที่พิพาทอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เกิดการปะทะกันทางทหารอย่างหนักระหว่างประเทศอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจาน ในเรื่องพื้นที่พิพาท ‘ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค’ ที่นานาชาติยอมรับเป็นของอาเซอร์ไบจาน แต่กลุ่มชาติพันธ์ุอาร์เมเนียควบคุมและแยกตัวออกมา โดยทั้ง 2 ฝ่ายโจมตีกันไปมา และต่างอ้างว่าทำเพื่อตอบโต้ที่อีกฝ่ายโจมตีมาก่อน ทำให้มีพลเรือนและทหารเสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย

...
ตามการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอาร์เมเนีย เกิดการโจมตีที่อยู่อาศัยของประชาชนใน ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค หลายจุด รวมถึงที่เมืองเอกอย่าง สเตพานาแกร์ต ตั้งแต่เวลาประมาณ 8:10น. วันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย. 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้หญิง 1 คนและเด็กอีก 1 คนเสียชีวิต ขณะที่หน่วยงานปกครองของ ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของพวกเขาเสียชีวิต 16 ศพ บาดเจ็บอีกนับร้อย
อาร์เมเนียจึงโจมตีตอบโต้ โดยยิงเฮลิคอปเตอร์ของอาเซอร์ไบจานตกไป 2 ลำ โดรนอีก 3 ลำ และทำลายรถถึงได้อีก 3 คัน ขณะที่รัฐบาลอาร์เมเนียประกาศกฎอัยการศึก และเคลื่อนกำลังทหารเต็มรูปแบบ ไม่นานหลังจากหน่วยงานปกครองของ ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค ประกาศคำสั่งเดียวกัน

นายกรัฐมนตรี นิโคล ปาชินยาน แห่งอาร์เมเนียเตือนว่า ภูมิภาคนี้ใกล้เข้าสู่ภาวะสงครามขนาดใหญ่ กล่าวหาอาเซอร์ไบจานว่าวางแผนรุกรานไว้ล่วงหน้า และโจมตีตุรกีว่ามีพฤติกรรมกร้าวร้าว เขายังเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติร่วมมือกันเพื่อป้องกันไม่ให้เสถียรภาพสั่นคลอนไปมากกว่านี้
ด้านกระทรวงกลาโหมของอาเซอร์ไบจานระบุว่า พลเรือนของเขาบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังอาร์เมเนียยิงปืนใหญ่โจมตีหลายหมู่บ้าน พร้อมยืนยันว่าพวกเขาเสียเฮลิคอปเตอร์ไปเพียง 1 ลำ แต่ลูกเรือรอดชีวิต ขณะที่พวกเขาสามารถทำลายระบบป้องกันทางอากาศของอาร์เมเนียได้ 12 จุด ขณะที่ประธานาธิบดี อิลฮัม อาลิเยฟ ระบุว่า เขาออกคำสั่งปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ขนานใหญ่แล้ว เพื่อตอบสนองต่อการโจมตีของกองทัพอาร์เมเนีย

...
ทั้งนี้ ข้อพิพาทเรื่อง ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกมานานกว่า 3 ทศวรรษแล้ว และเป็นชนวนเหตุให้อาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจานปะทะกันเป็นครั้งคราว เช่นก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม มีผู้เสียชีวิต 16 ราย ทำให้เกิดการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีที่กรุง บากู ของอาเซอร์ไบจาน เรียกร้องให้รัฐบาลยึดดินแดนแห่งนี้กลับคืนมา
ระหว่างการปะทะกันครั้งล่าสุด ประธานษธิบดี อิลฮัม อาลิเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจานออกมากล่าวว่า เขามั่นใจว่าจะสามรถยึดการควบคุม ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค กลับมาได้อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอัน แห่งตุรกี ประกาศให้การสนับสนุนฝ่ายอาเซอร์ไบจาน ด้านรัสเซีย ซึ่งเป็นมิตรกับอาร์เมเนีย เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงในทันทีและจัดการเจรจาเพื่อบรรเทาสถานการณ์

...
ส่วนฝรั่งเศส ซึ่งในประเทศมีชุมชนชาวอาร์เมเนียขนาดใหญ่ ก็เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงและหันหน้าเจรจาเช่นกัน ขณะที่อิหร่านซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับทั้งอาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนีย เสนอตัวเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพ