ผู้ประท้วงในสหรัฐฯ ลุกฮือเรียกร้องความเป็นธรรมให้หญิงผิวดำที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต นำไปสู่การเรียกร้องความเท่าเทียมในสังคม และการปฏิรูปการทำงานของตำรวจสหรัฐฯ
- หญิงผิวสีทั่วสหรัฐฯ ลุกฮือประท้วงกระจายทั่วประเทศหลังคณะลูกขุนไม่ตั้งข้อหาตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุเจ้าหน้าที่บุกยิงบรีโอนา เทย์เลอร์ เสียชีวิตคาบ้านพัก หลังตำรวจได้หมายค้นบ้านหลังดังกล่าวที่ต้องสงสัยเป็นที่เก็บสารเสพติด
- คณะลูกขุนสหรัฐฯ พิจารณาตั้งข้อหาตำรวจ 1 ใน 3 ราย ซึ่งผู้ประท้วงมองว่าไม่เป็นธรรม และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุเนื่องจากท้ายที่สุดแล้วตำรวจไม่พบสารเสพติดใดๆ ในบ้านผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการสอบสวนคดี
- เหตุการณ์ประท้วงในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจสหรัฐฯ จับกุมจนเป็นชนวนทำให้เกิดการประท้วงเรียกร้องความเท่าเทียมไปทั่วโลก นำไปสู่ความพยายามเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งระบบ พร้อมกับลงโทษสถานหนักต่อตำรวจที่ก่อเหตุ
เมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกาได้เกิดการประท้วงเดือดขึ้นอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ บรีโอนา เทย์เลอร์ หญิงผิวดำ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตขณะเข้าตรวจค้นบ้านพัก โดยการประท้วงถูกจุดประกายขึ้นหลังคณะลูกขุนใหญ่พิจารณาตั้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหญิงผิวดำเพียง 1 นาย จากทั้งหมด 3 นาย ทำให้ผู้ประท้วงมองว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวไม่เป็นธรรม และเกิดการประท้วงกระจายไปทั่วประเทศ การประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้หญิงผิวดำครั้งนี้เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับกรณีการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เสียชีวิตขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ซึ่งกลายเป็นชนวนการประท้วง Black Lives Matter เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมและยุติการเหยียดเชื้อชาติ
...
นาทีระทึกตำรวจบุกเข้าตรวจค้นบ้าน ยิง บรีโอนา เทย์เลอร์ ดับ
ย้อนกลับไปเช้าตรู่ของวันที่ 13 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา น.ส. บรีโอนา เทย์เลอร์ พยาบาลสาววัย 26 ปี นอนอยู่บนชั้นสองของบ้านพัก แต่นายวอล์คเกอร์ เพื่อนชายของเธอได้ยินเสียงคนทุบประตูเสียงดังจึงคว้าปืนขึ้นมา และลงไปชั้นล่างของบ้านพร้อมกับตะโกนถามผู้บุกรุกว่าเป็นใคร แต่กลับไม่ได้ยินเสียงใดๆ ตอบกลับมา หลังจากนั้นผู้บุกรุกพังประตูหน้าบ้านเข้ามา ทำให้นายวอล์คเกอร์ ที่ขณะนั้นไม่ทราบว่าผู้บุกรุกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ยิงปืนสวนไปหนึ่งนัด ถูกเข้าที่ขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านเป็นคนแรก ก่อนที่ตำรวจอีกสองนายจะตามเข้ามาในบ้าน และเกิดการยิงปะทะกันกับนายวอล์คเกอร์ ขณะที่ น.ส.เทย์เลอร์ หญิงผิวดำ ที่ไม่มีอาวุธใดๆ กลับถูกยิงเข้าหลายนัด
ถึงแม้นายวอล์คเกอร์จะรีบโทรแจ้งตำรวจ แจ้งเหตุผู้บุกรุกบ้านและยิงเพื่อนสาวของเขา แต่ก็ไม่ทันเพราะ น.ส.เทย์เลอร์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ตัวนายวอล์คเกอร์ ถูกจับใส่กุญแจมือและถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านเจ้าหน้าที่ตตำรวจสงสัยว่า น.ส.บรีโอนา เทย์เลอร์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดซึ่งเป็นแฟนเก่าของเธอ และออกหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว แต่เมื่อค้นจนทั่วก็ไม่พบสารเสพติดใดๆ นอกจากนี้ขณะที่ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านยังไม่มีภาพจากกล้องของเจ้าหน้าที่ทำให้ไม่มีคลิปภาพเหตุการณ์
สังคมจับตาศาลพิจารณาคดี
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจทั้งสามนายที่บุกเข้าไปในบ้านของเทเลอร์ ได้ถูกสั่งพักงาน ขณะที่ทางครอบครัวและทนายความยืนยันว่า น.ส.เทย์เลอร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด
สองเดือนหลังจากการตายของเทย์เลอร์ แม่ของผู้ตายได้ยื่นฟ้องคดีการเสียชีวิตโดยมิชอบต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวของกับการเสียชีวิตของลูกสาว หลังจากนั้น เมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี ยอมจ่ายเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 316 ล้านบาทให้แก่ครอบครัวของเทย์เลอร์ พร้อมทั้งเตรียมปฏิรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เอฟบีไอ ได้เข้ามาสืบสวนคดีการตายของเทย์เลอร์ ซึ่งกลายเป็นคดีที่ถูกจับตามองในสังคมอเมริกัน ขณะที่ตำรวจในเมืองลุยส์วิลล์ มีข้อบังคับให้ตำรวจทุกนายติดกล้องบันทึกเหตุการณ์ขณะปฏิบัติงาน
...
แต่การตัดสินคดีความเบื้องต้นกลับสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนผิวดำทั่วสหรัฐฯ หลังคณะลูกขุนใหญ่พิจารณาตั้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของหญิงผิวดำเพียง 1 นาย จากทั้งหมด 3 นาย ซึ่งเป็นข้อหาที่ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น.ส.เทย์เลอร์ นอกจากนี้หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้าบ้านพักของเทย์เลอร์ ได้ถูกไล่ออกฐานยิงปืนอย่างไม่มีจุดหมายในที่เกิดเหตุจำนวน 10 นัด ขณะที่อีกสองนายถูกพิจารณาว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว
ด้าน นายโรเบิร์ต ชโรเดอร์ หัวหน้าตำรวจชั่วคราวระบุว่าเขาช็อกกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ทำลงไป และตกใจกับการใช้อาวุธที่ร้ายแรงในลักษณะดังกล่าว ขณะที่ผู้ประท้วงได้รวมตัวเดินขบวนประท้วงบนท้องถนน และตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการสอบสวนคดี รวมไปถึงการบังคับใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ
จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตขณะจับกุม คนหมดศรัทธา ร้องปฏิรูปตำรวจ
ไม่ใช่แค่บรีโอนา เทย์เลอร์ เท่านั้น แต่ยังเกิดเหตุสลดตามมาติดๆ คือเหตุการณ์เสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ วัย 46 ปี ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ได้มีการเผยแพร่คลิปชายผิวดำที่พยายามอ้อนวอนให้ตำรวจที่ใช้เข่ากดบริเวณต้นคอปล่อยเขา เพราะเขาหายใจไม่ออก ชายผิวดำพูดซ้ำเป็นสิบรอบ แต่ตำรวจกลับไม่ฟัง จนท้ายที่สุดชายผิวดำคนดังกล่าวขาดอากาศหายใจเสียชีวิตขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
...
สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายฟลอยด์ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ โดยพนักงานในร้านสงสัยว่านายฟลอยด์ ใช้ธนบัตรปลอมจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ การตายของนายฟลอยด์ สร้างความโกรธแค้นในหมู่คนผิวสีที่มองว่าเป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อคนผิวดำ จุดประกายให้เกิดการประท้วงเรียกร้องความเท่าเทียมไปตามเมืองใหญ่ทั่วโลก และมีผู้ร่วมเดินขบวนกว่าล้านคน ขณะที่นายเดเร็ค เชาวินตำรวจที่ใช้เข่ากดนายฟลอยด์จนเสียชีวิตถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า
...
เหตุการณ์เสียชีวิตของชาวผิวดำจากน้ำมือของตำรวจผิวขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งผลให้เกิดการเรียกร้องความเป็นธรรมและปฏิรูประบบตำรวจทั้งระบบ ผู้ที่โกรธแค้นกว่าหมื่นคนได้ออกมาประท้วงตามเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ จุดไฟเผาสิ่งของ และเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่ พร้อมกับตะโกนสโลแกนมีใจความว่า 'หากไร้ซึ่งความยุติธรรม จะไม่เกิดความสงบสุข' และชูป้าย Black Lives Matter ขึ้นเหนือศีรษะ
การประท้วงไม่ได้เกิดขึ้นตามท้องถนนเท่านั้นแต่ยังมีการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ตั้งคำถามถึงสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่มักประกาศก้องว่าเป็นดินแดนเสรี พร้อมทั้งเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่บุคคลผิวดำที่เสียชีวิต.
ผู้เขียน: ปานฝัน
ที่มา: CNN , BBC, Theconversation