- โยชิฮิเดะ ซูกะ ขุนพลคู่ใจ ผู้ถือเป็น 'มือขวา' ของนายกฯชินโสะ อาเบะ กำลังถูกจับตา ตัวเต็งนายกฯใหม่ญี่ปุ่น
- จากลูกเกษตรกร ชาวไร่สตรอว์เบอรี่ในอำเภอชนบท มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง ทำงานหาเงินเรียนมหาวิทยาลัยภาคค่ำจนจบปริญญาตรี จากนั้น มุ่งมั่นทำงานการเมืองอย่างจริงจัง จนได้เป็น ส.ส. 8 สมัย
'มือขวา' ชินโสะ อาเบะ
นาทีนี้ บุรุษผู้มีใบหน้าค่อนข้างนิ่งขรึม บุคลิกอ่อนน้อม ดูจริงจังกับการทำงาน นาม ‘โยชิฮิเดะ ซูกะ’ กำลังถูกจับตา ในฐานะเป็นผู้สมัคร ‘เต็งหนึ่ง’ ของพรรครัฐบาล 'เสรีประชาธิปไตย' (แอลดีพี) ที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น สืบต่อจาก นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ซึ่งได้ตัดสินใจลาออกอย่างกะทันหัน ช็อกชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยปัญหาสุขภาพจากการเจ็บป่วยเรื้อรัง
...
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ วัย 71 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในรัฐบาลนายกฯอาเบะมานานเกือบ 8 ปี ถูกจับตาจากนักวิเคราะห์การเมืองทันทีว่า เขาคือ 'ตัวเต็ง' ที่จะได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น เนื่องจาก นายซูกะ ถือเป็น ‘มือขวา’ ของนายกรัฐมนตรีอาเบะ ซึ่งมอบความไว้วางใจและทำงานในตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายกฯอาเบะมาตั้งแต่ปี 2555
ตามความเห็นของนักวิเคราะห์การเมืองหลายคน มองถึงสาเหตุที่ทำให้นายซูกะ กำลังอยู่ในสถานะแข็งแกร่งที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปว่า เนื่องจากนายซูกะได้รับการสนับสนุนทั้งจากนายอาเบะเอง อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก นายทาโร อาโซ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง, นายโทชิฮิโร นิเคอิ เลขาธิการพรรคแอลดีพี รวมทั้ง '2 มุ้ง' กลุ่มการเมืองใหญ่สุดในพรรคแอลดีพีอีกด้วย
เกือบ 8 ปีที่ผ่านมา นายซูกะ ทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำตัวของนายอาเบะในการส่งสารไปถึงชาวญี่ปุ่นและชาวโลกในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ไปจนถึงนโยบายเศรษฐกิจ การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และการจัดการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19
จากลูกเกษตรกร-ชาวไร่สตรอว์เบอรี่ สู่ตัวเต็งนายกฯใหม่
นายซูกะ เป็นบุตรชายของครอบครัวเกษตรกร ทำไร่สตรอว์เบอรี่ ในอำเภอโองาจิ พื้นที่ชนบทในจังหวัดอะกิตะ โดยนายซูกะได้ย้ายมาอยู่ในกรุงโตเกียว หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย และด้วยความเป็นคนรักการเรียนประกอบกับมีนิสัยขยันขันแข็ง ทำให้นายซูกะเลือกเรียนมหาวิทยาลัยภาคค่ำ ที่มหาวิทยาลัยโฮเซ ในกรุงโตเกียว ซึ่งเปิดสอนระดับปริญญาตรีในภาคค่ำ ในปี 2516 ควบคู่กับการทำงานหาเงินเรียนหนังสือด้วยตนเอง ไม่รบกวนพ่อแม่ ด้วยการทำงานที่โรงงานทำกระดาษแข็ง จนกระทั่งเรียนจบระดับปริญญาตรี
หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว นายซูกะได้ทำงานเป็นเลขานุการของ นายฮิโกะซาบูโระ โอโกโนงิ สมาชิกสภาพรรคแอลดีพี มานานถึง 11 ปี ก่อนจะตัดสินใจเดินตามความฝันเข้าสู่วงการการเมือง ลงสมัครชิงสมาชิกสภาท้องถิ่น จนสามารถคว้าชัยชนะได้เป็นสมาชิกสภาเมืองโยกาฮามา เมื่อเมษายน 2530
นายซูกะ ซึ่งขณะนั้นเป็น นักการเมือง ‘หน้าใหม่’ ‘โนเนม’ ใช้วิธีลงพื้นที่หาเสียงเดินเคาะประตูบ้าน พบปะหาเสียงกับชาวบ้านมากถึง 30,000 หลัง จนรองเท้าสึกไป 6 คู่ อีกทั้งนายซูกะยังถือเป็นนักการเมืองคนแรกของญี่ปุ่นที่บุกเบิกริเริ่มการปราศรัยหาเสียงบริเวณหน้าสถานีรถไฟ ซึ่งมีประชาชนสัญจรไปมาคับคั่ง จนได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการหาเสียงของผู้สมัครลงเลือกตั้งในญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
จากนั้น นายซูกะ ก้าวสู่การเลือกตั้งสนามใหญ่ ลงชิงเก้าอี้ ส.ส. และสามารถคว้าชัยชนะได้เป็น ส.ส.ในเขตคานากาวะที่ 2 ในปี 2539 โดยในปีที่ 3 ของการเป็น ส.ส. นายซูกะได้สร้างความฮือฮาจากการย้ายการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี เคโสะ โอบูชิ ไปสนับสนุน นายเซโรกุ คาจิยามา อดีตเลขาธิการพรรคแอลดีพี ซึ่งถือเป็นการย้ายฐานการสนับสนุนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เพิ่งดำรงตำแหน่ง ส.ส. และหลังจากนั้น นายซูกะ ก็สามารถชนะการเลือกตั้งได้เป็น ส.ส. ในปี 2546 และ 2548
...
จากนั้น นายซูกะได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาต่อเนื่อง จนกระทั่งในเดือนตุลาคม 2554 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานองค์กรพรรคแอลดีพี และการเลือกตั้งของพรรค โดยในเดือนกันยายน 2555 นายซูกะ ได้รับแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้รักษาการเลขาธิการพรรคแอลดีพี
นายซูกะยังคงมีความใกล้ชิดกับนายอาเบะ มาตั้งแต่ปลายปีทศวรรษ 2000 มาจนถึงต้นทศวรรษ 2010 โดยนายซูกะเป็นผู้ที่สนับสนุนให้นายอาเบะลงสมัครเป็นประธานพรรคแอลดีพีในปี 2555 เขายังไม่เหมือนกับคนที่สนับสนุนนายอาเบะจำนวนมาก เพราะนายซูกะผลักดันให้นายอาเบะโฟกัสเน้นในเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า ความใฝ่ฝันมายาวนานที่จะให้มีการแก้ไขมาตรา 9 ในรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่นมีกองทัพมานับตั้งแต่พ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
...
หลังจากนายอาเบะคว้าชัยเลือกตั้งในปี 2555 นายซูกะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในเดือนธันวาคม 2555 และกันยายน 2557 นายซูกะยังได้รับตำแหน่ง Minister in charge of Alleviating the Burden of the Bases in Okinawa โดยนายซูกะ และนายทาโร อาโซ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ถือเป็นนักการเมืองในรัฐบาลนายกฯอาเบะ เพียงสองคนที่ยังได้ดำรงตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน
ในฐานะเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายซูกะ เป็นทั้งผู้ช่วยและที่ปรึกษาของนายอาเบะ รวมทั้งยังมีบทบาทในฐานะเป็นผู้จัดการรัฐบาล นายซูกะเป็นคนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยว และแรงงานต่างชาติ รวมทั้งการลดค่าโทรศัพท์มือถือ นอกจากนั้น นายซูกะยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประกาศชื่อรัชสมัยใหม่ 'เรวะ' ที่เริ่มต้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา อดีตสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะที่ทรงสละราชบัลลังก์
...
ลุ้นได้รับเลือกเป็นนายกฯคนใหม่ญี่ปุ่น
นายซูกะ ได้ประกาศยืนยันเมื่อวันอังคารที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา เขาจะลงชิงตำแหน่งประธานพรรคแอลดีพีคนใหม่สืบต่อจากนายอาเบะ หลังมีข่าวลือเรื่องนี้มาหลายวัน ซึ่งตามกระบวนการทางการเมืองของญี่ปุ่นแล้ว ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคการเมืองที่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด จะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ และตามกำหนด พรรคแอลดีพีประกาศจะเลือกตั้งประธานพรรคคนใหม่ในวันที่ 14 กันยายน 2563
สำหรับคู่แข่งคนสำคัญของนายซูกะ คือ นายชิเกรุ อิชิบะ อดีตรมว.กลาโหม รวมทั้ง นายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรมว.ต่างประเทศ โดยนายอิชิบะ อดีตรมว.กลาโหม วัย 63 ปี ถือเป็น 'คู่ปรับ' ฝ่ายตรงข้ามกับนายอาเบะ และไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคแอลดีพีจำนวนมาก ทว่าผลโพลสำรวจความนิยมจากชาวญี่ปุ่น ออกมาว่านายอิชิบะได้รับคะแนนความนิยมเหนือกว่าคนอื่น ส่วนนายคิชิดะ อดีตรมว.ต่างประเทศ วัย 63 ปี เคยถูกมองว่าเป็นผู้ที่จะมาสืบทอดความนิยมของนายอาเบะ แต่ต่อมา เขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากนายอาเบะ
ทำให้เวลานี้ นายซูกะ ถือเป็นตัวเต็งที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้รับความไว้วางใจจากเสียงส่วนใหญ่ของส.ส.พรรคแอลดีพี ที่จะได้เป็นประธานพรรคแอลดีพีคนใหม่ และนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น จนถึงเดือนกันยายน 2564
ด้วยเหตุนี้ คงต้องติดตามกันด้วยความระทึกว่า นายซูกะ ส.ส. 8 สมัย จะประสบความสำเร็จสูงสุดทางการเมือง ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นหรือไม่.
ผู้เขียน : เวนิส
ที่มา : nippon , The Guardian, Aljazeera