โรงพยาบาลในประเทศเยอรมนี ซึ่งกำลังรักษานายอเล็กเซ นาวาลนี ระบุว่า ผู้นำฝ่ายค้านของรัสเซียรายนี้ อาจถูกวางยาพิษ ขณะที่รัฐบาลสั่งคุ้มกันแล้ว
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านชาวรัสเซียวัย 44 ปี ถูกส่งตัวไปเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อรักษาอาการป่วยหนักขั้นวิกฤติ หลังล้มป่วยกะทันหันจนหมดสติขณะโดยสารเครื่องบินไปยังกรุงมอสโกในวันพฤหัสบดี และคาดกันว่าเขาโดนวางยาพิษในชาที่ร้านกาแฟของสนามบินเมืองทอมสก์ก่อนขึ้นเครื่อง
...
ล่าสุดในวันจันทร์ที่ 24 ส.ค. 2563 โรงพยาบาล ‘ชาริเต้’ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป ซึ่งกำลังรักษานายนาวาลนีอยู่นั้น ออกแถลงการณ์ระบุว่า หลักฐานทางการแพทย์ชี้ว่า ชายคนนี้ได้รับพิษจากสารในกลุ่ม ยาต้านการทำลายของสารสื่อประสาทชนิดโคลีน (cholinesterase inhibitor)
โรงพยาบาลชาริเต้ เสริมด้วยว่า ตอนนี้นายนาวาลนีอยู่ในอาการโคม่าเทียม ในห้องไอซียู “อาการของเขาสาหัส แต่ตอนนี้ยังไม่มีอันตรายอย่างฉับพลันต่อชีวิตของเขา”
อนึ่ง สารในกลุ่ม cholinesterase inhibitor ถูกใช้อย่างกว้างขวางเพื่อบำบัดโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ แต่ก็เป็นสารที่พบได้ในยาฆ่าแมลง และอาวุธเคมีทำลายประสาท เช่น ซารินและโนวิชอก ซึ่งถูกใช้ในความพยายามลอบสังหารนาย เซอร์เก สครีพอล สายลับ 2 หน้าชาวรัสเซีย ที่เมืองซาลิสบิวรี ในอังกฤษเมื่อปี 2561 โดยเป็นสารที่สามารถชะลออัตราการเต้นของหัวใจและเป็นพิษต่อสมอง
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายสเตฟเฟน ไซแบร์ต โฆษกของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า มีโอกาสสูงมากที่นายนาวาลยีจะถูกวางยาพิษ และจำเป็นที่จะต้องคุ้มครองเขาเป็นพิเศษ
“เรากำลังดูแลคนไข้ที่มีความน่าจะเป็นสูงมากว่าจะถูกวางยาพิษ” นายไซแบร์ตกล่าว “เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีด้วยยาพิษ การคุ้มครองจึงเป็นสิ่งจำเป็น” “ข้อสงสัยไม่ใช่ว่า นายนาวาลนีวางยาตัวเอง แต่เป็นมีใครบางคนวางยาพิษนายนาวาลนี และน่าเสียดายที่มีตัวอย่างการวางยาพิษแบบนี้ให้เห็นในประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบันของรัสเซียแล้ว 1 หรือ 2 กรณี”
ด้านนางแมร์เคิล ออกแถลงการณ์ร่วมกับนายไฮโค มาส รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศว่า ผลการตรวจของทีมแพทย์โรงพยาบาลชาริเต้ชี้ว่ามีการวางยาพิษ นายอเล็กเซ นาวาลนี และเนื่องจากนายนาวาลนีมีบทบาทสำคัญในฝั่งการเมืองฝ่ายค้านของรัสเซีย พวกเขาจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดโดยเร็ว อย่างโปร่งใส รวมทั้งต้องระบุตัวผู้รับผิดชอบและนำตัวมาลงโทษด้วย