นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 7 ราย เกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการระบาดที่เมืองโอ๊คแลนด์ ขณะที่ออสเตรเลียยังควบคุมการระบาดในรัฐวิกตอเรียไม่ได้ มีผู้ติดเชื้ออีกหลายร้อยคนและเสียชีวิต 4 ศพ

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นายแอชลีย์ บลูมฟีลด์ ผู้อำนวยการใหญ่ด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ เปิดเผยในวันเสาร์ที่ 15 ส.ค. 2563 ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศอีก 7 ราย โดย 6 รายเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ หรือ การระบาดแบบกลุ่มก้อน ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ส่วนอีกรายกำลงสืบหาที่มา

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาน้อยกว่าอีกหลายๆ ประเทศ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์กลับพบผู้ติดเชื้อ 4 รายที่เมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งมีประชากร 1.7 ล้านคน ทำให้ทางการต้องบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง

การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดของนิวซีแลนด์เพิ่มเป็น 1,258 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อคงเหลือในประเทศที่ 56 ราย มีผู้เสียชีวิต 22 ศพ เมื่อวันศุกร์นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ในเมืองโอ๊คแลนด์ไปอีกเกือบ 2 สัปดาห์เพื่อควบคุมการระบาด

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์
นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์

...

อีกด้านหนึ่งที่ประเทศออสเตรเลีย รัฐบาลยังประสบปัญหาในการควบคุมการระบาดที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดในประเทศตั้งแต่เดือนก่อน โดยที่เมืองเอกของรัฐอย่างเมืองเมลเบิร์น กำลังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นาน 6 สัปดาห์ ส่วนพื้นที่อื่นๆ มีการจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชนอย่างเข้มงวด

เมื่อวันเสาร์ ทางการรัฐวิกตอเรียรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 303 รายและมีผู้เสียชีวิตอีก 4 ศพ หลังจากเมื่อวันศุกร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 372 ราย และเสียชีวิต 14 ศพ แต่ตัวเลขดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าสถิติเมื่อ 5 ส.ค. ที่พบผู้ป่วยถึง 725 รายในวันเดียว และเริ่มมีสัญญาณการคงที่ของการระบาดแล้ว

อย่างไรก็ดี นาย แดเนียล แอนดรูว์ รัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า เริ่มมีสัญญาณที่ทำให้สบายใจขึ้นได้บาง แต่การระบาดยังไม่จบลง และหนทางยังอีกยาวไกล