นายกรัฐมนตรีประเทศมอริเชียประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเรือขนสินค้าเกยตื้น จนทำให้น้ำมันรั่วไหลลงมหาสมุทรอินเดีย เสี่ยงกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ

สำนักข่าว บีบีซี กับ ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ปราวองด์ ฌูนโยธ แห่งประเทศเกาะมอริเชียส ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสิ่งแวดล้อม เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 7 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา หลังจากเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ที่เกยตื้นนอกชายฝั่งตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ทำน้ำมันจำนวนมากรั่วไหลลงมหาสมุทรอินเดีย

เรือดังกล่าวมีชื่อว่า ‘เอ็มวี วาคาชิโอะ’ ของบริษัท นากาชิกิ ชิปปิ้ง ประเทศญี่ป่น แต่ติดธงปานามา เกยตื้นที่ ‘ปอนเต เดอนี’ (Pointe d'Esny) พื้นที่ชุ่มน้ำทางตะวันออกของมอริเชียส ตั้งแต่ 25 ก.ค. โดยจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติทางทะเล ‘บลู เบย์’ และชายหาดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างมากของเมืองมาเอบวร์ก

...

ในตอนเกิดเหตุ เรือวาคาชิโอะ ไม่ได้บรรทุกสินค้าใดๆ แต่มีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่บนเรือร่วม 4,000 ตัน ซึ่งรั่วไหลออกมานับแต่นั้น โดยบริษัท นากาชิกิ ชิปปิ้ง ระบุว่า สภาพอากาศเลวร้ายและฝนที่ตกหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้น้ำมันรั่วไหลออกมาจากกราบขวาเรือที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งพวกเขาใช้มาตรการป้องกันน้ำมัน และนำทุ่นดักคราบน้ำมันไปลอยไว้รอบเรือแล้ว

อย่างไรก็ตาม น้ำมันที่รั่วไหลออกมาทำให้เกิดคราบน้ำมันสีดำปกคลุมผิวทะเลและพื้นดินโดยรอบ ส่งผลให้นายฌูนโยธต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และร้องขอความช่วยเหลือจากประเทศฝรั่งเศส โดยระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า “ประเทศของเราไม่มีทักษะและความชำนาญในการทำให้เรือที่เกยตื้นกลับมาเลยได้อีกครั้ง”

ต่อมาในวันเสาร์ที่ 8 ส.ค. 2563 ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ระบุว่า พวกเขากำลังส่งทีมและอุปกรณ์ควบคุมมลภาวะจากเกาะเรอูนิยง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะมอริเชียสไปช่วยเหลือแล้ว

ด้านนาย แฮปปี้ คัมบูล ผู้จัดการอาวุโสด้านการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานของ ‘กรีนพีซ’ องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อม เตือนว่า เรือยักษ์ลำนี้ทำน้ำมันดีเซลหลายตันรั่วลงสู่มหาสมุทรอินเดีย ทำให้สัตว์ในพื้นที่อยู่ในความเสี่ยง

“หลายพันสายพันธ์ุในน่านน้ำบริสุทธิ์ของ บลู เบย์, ปอนเต เดอนี และเมืองมาเอบวร์ก เสี่ยงจมน้ำตายเพราะมลพิษทางทะเล และจะทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมาต่อเศรษฐกิจ, ความมั่นคงทางอาหาร และสุขภาพของมอริเชียส”.

...