ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มจนเกิน 4 ล้านรายแล้ว ขณะที่ผู้ว่าฯ นิวยอร์กยืนยันพบเด็ก 3 คนเสียชีวิตจากโรคหายากที่อาจเป็นอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไวรัสมรณะตัวนี้
เว็บไซต์ ศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรนา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ ระบุว่า ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 4,008,497 รายแล้วในคืนวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. 2563 โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตถึง 278,135 ศพ และรักษาหายดีแล้ว 1,363,232 คน
สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่การระบาดรุนแรงที่สุดโดยในวันเสาร์ พวกเขามียอดผู้ติดเชื้อสะสมถึง 1,305,544 ราย มากกว่าประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับที่ 2 ถึงอันดับที่ 7 รวมกัน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 78,618 ศพ รักษาหายแล้ว 212,534 คน
...
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังหาทางเปิดเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางรายงานว่าบุคคลใกล้ชิดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลติดเชื้อไวรัสมรณะตัวนี้ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ค.) ทหารผู้ช่วยส่วนตัวของนายทรัมป์ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 และเมื่อวันศุกร์ นางเคที มิลเลอร์ เลขาธิการฝ่ายสื่อของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ถูกพบว่าติดเชื้อเช่นกัน
ขณะที่นาย แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ในสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ว่า พบเด็กเล็ก 3 รายเสียชีวิตจากอาการป่วยชนิดหายากที่ทำให้เส้นเลือดโป่งพอง, หัวใจมีปัญหา โดยมีความเป็นไปได้ที่อาการเหล่านี้จะเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ในนิวยอร์กมีเด็กเล็กวัยทารกถึงวัยประถมอย่างน้อย 73 คนมีอาการคล้ายกับโรคคาวาซากิ ซึ่งเป็นโรคหายากในเด็กที่ทำให้เกิดการอักเสบในระบบอวัยวะต่างๆ และกลุ่มอาการท็อกซิก ช็อก แม้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ เป็นต้นเหตุของอาการเหล่านี้หรือไม่ แต่นายคูโอโมกล่าวว่า เด็กที่ป่วยหลายคนติดเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการปกติของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างรักษาที่โรงพยาบาล
ในพื้นที่อื่นๆ ของสหรัฐฯ รวมทั้งในยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร ก็มีรายงานเด็กที่มีอาการเหล่านี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเช่นกัน