ชายคนหนึ่งเที่ยวไนต์คลับหลายแห่งในกรุงโซล ก่อนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับชายคนนี้กว่า 40 รายแล้ว จนเกิดความกังวลว่าการระบาดอาจปะทุอีกครั้ง
สำนักข่าว ยอนฮัป รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. 2563 ทางการเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศอีก 18 ราย โดย 17 รายในจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับชายวัย 29 ปี ซึ่งไปเที่ยวไนต์คลับและบาร์ 5 แห่ง ในเขตอิแทวอน ของกรุงโซล เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
เรื่องดังกล่าวทำให้ นายพัค วอน-ซูน นายกเทศมนตรีกรุงโซล ออกคำสั่งปิดคลับและบาร์ทุกแห่งในเมืองหลวงแห่งนี้ตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นไป โดยกล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับชายคนนี้ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 รายแล้ว เขายังเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนที่ไปเที่ยวคลับบาร์ในย่านอิแทวอนช่วงวันที่ 29 เม.ย. ถึงวันพุธที่ 6 พ.ค. เข้ารับการตรวจร่างกาย และงดออกนอกบ้าน
ด้านหน่วยงานสาธารณสุขคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้อาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากตามบันทึกการเข้าออกของไนต์คลับและบาร์ช่วงที่ชายคนนี้ไปเที่ยว พบว่ามีผู้เข้าใช้บริการอย่างน้อย 1,500 คน ขณะที่นายพัคกล่าวว่า ข้อมูลในบันทึกการเข้าออกส่วนใหญ่ไม่ถูกต้อง และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อผู้ที่อยู่ในรายการมากกว่า 1,300 คนได้
...
ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้คล้ายกับกรณีการระบาดที่โบสถ์ลัทธิชินชอนจิ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผู้ติดเชื้อคนเดียวแพร่เชื้อแก่คนจำนวนมาก จนช่วงหนึ่งเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเกือบ 1,000 คนในแต่ละวัน กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีนในเดือนมีนาคม
แต่หลังจากนั้น เกาหลีใต้ก็สามารถควบคุมการระบาดได้เกือบทั้งหมด โดยไม่ต้องพึ่งพามาตรการรุนแรงอย่างการล็อกดาวน์ หรือห้ามเดินทางไปต่างประเทศ แต่ใช้การตรวจโรคแก่ประชาชนจำนวนมหาศาล และการตามรอยหาต้นตอของเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพแทน
นายกรัฐมนตรี ชอง เซ-คยอน แห่งเกาหลีใต้ประกาศจะใช้ทรัพยากรทุกอย่างเพื่อควบคุมไม่ให้ไวรัสกลับมาแพร่กระจายอีกครั้ง หลังจากพวกเขากำลังเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่าง และประกาศจะกลับมาเปิดโรงเรียนในวันที่ 13 พ.ค.