การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนีเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลเพิ่งเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้ไม่นาน

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานเมื่อ 28 เม.ย. 2563 ว่า ข้อมูลจากสถาบัน ‘โรแบร์ท ค็อค’ (RKI) หน่วยงานควบคุมโรคในเยอรมนี ระบุว่า ตัวเลขอัตราการแพร่เชื้อ (infection rate) ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด กลับมาเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราว 1.0 อีกครั้ง

ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้ว่า ผู้ติดเชื้อ 1 คนจะสามารถแพร่เชื้อไปให้คนอื่นๆ ได้กี่คน ซึ่งรัฐบาลเยอรมนีและนักวิทยาไวรัสต่างเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องควบคุมตัวเลขนี้ให้ต่ำกว่า 1.0 ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน อัตราการแพร่เชื้อในเยอรมนีลดลงเหลือเพียง 0.7 เท่านั้น ก่อนจะกลับมาเพิ่มขึ้น

ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจากไวรัสมรณะตัวนี้ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน โดยในวันอังคารที่ 28 เม.ย. อัตราการเสียเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ตามข้อมูลของ RKI แต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่นฝรั่งเศส

ชาวเยอรมันเที่ยวสวนสัตว์ในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งกลับมาเปิดอีกครั้ง หลังรัฐบาลคลายการล็อกดาวน์
ชาวเยอรมันเที่ยวสวนสัตว์ในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งกลับมาเปิดอีกครั้ง หลังรัฐบาลคลายการล็อกดาวน์

...

ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีเพิ่งประกาศว่าควบคุมการระบาดของไวรัสตัวนี้ได้เมื่อต้นเดือนเมษายน และผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ให้ร้านค้าขนาดเล็กเปิดทำการได้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ขณะที่นักเรียนจะสามารถไปโรงเรียนได้ในวันจันทร์หน้า

แต่การกลับมาเพิ่มขึ้นของอัตราการแพร่เชื้อและการเสียชีวิต อาจทำให้รัฐบาลต้องทบทวนอย่างรอบคอบอีกครั้ง ก่อนจะมีการตัดสินใจเรื่องมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้คาดกันว่า รัฐบาลผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก

นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เคยออกมาเตือนเรื่องการคลายล็อกดาวน์เร็วเกินไป จนถูกโจมตีจากสื่อและฝ่ายค้านมาแล้ว โดยเธอระบุว่า หากอัตราการแพร่เชื้อเพิ่มเป็น 1.1 ระบบสาธารณสุขและเตียงห้องไอซียูจะถึงขีดจำกัดภายในเดือนตุลาคม ถ้าอัตราเพิ่มเป็น 1.2 ขีดจำกัดจะเลื่อนมาอยู่ที่เดือนกรกฎาคม และหากอัตราเพิ่มเป็น 1.3 แม้ดูเหมือนไม่มาก แต่ระบบสาธารณสุขจะถึงขีดจำกัดในเดือนมิถุนายนเท่านั้น

อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี