อิตาลียอดติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 10,000 คน ออสเตรียห้ามเข้าประเทศ

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มขึ้นจนมากกว่า 10,000 รายแล้ว ขณะที่ออสเตรียออกคำสั่งไม่ให้ชาวอิตาลีเดินทางเข้าประเทศ

สำนักข่าว เมโทร รายงานว่า สำนักงานป้องกันพลเรือนของอิตาลีรายงานในวันอังคารที่ 10 มี.ค. 2563 ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 977 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 10,149 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 168 คนในช่วงเวลาเดียวกันเป็นทั้งหมด 631 รายแล้ว

การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอิตาลีนับว่ารุนแรงที่สุดในโลกรองจากจีน ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการปิดกั้นไม่ให้คนเดินทางออกจากเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ โดยสำนักงานป้องกันพลเรือนระบุว่า จนถึงตอนนี้มีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 1,004 ราย แต่ผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องอยู่ห้องไอซียูเพิ่มจาก 733 รายเป็น 877 ราย

ด้านนายความเคลื่อนไหวอื่นๆ ในยุโรป สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เซบาสเตียน คูร์ซ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศออสเตรีย ประกาศคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากอิตาลีข้ามพรมแดนเข้ามาในออสเตรีย เว้นแต่จะมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ชาวออสเตรียที่กลับมาก็ต้องกักกันตนเอง 14 วัน เพื่อควบคุมการระบาด หลังพบผู้ติดเชื้อในประเทศแล้ว 182 ราย

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสเปนเพิ่มขึ้นเป็น 1,678 รายแล้ว โดยเกือบครึ่งอยู่ในเขตเมืองมิลาน ทำให้ทางการออกคำสั่งให้การแข่งขันกีฬาทั้งหมดรวมทั้งลีกฟุตบอล ‘ลา ลีกา’ ต้องกระทำในสถานที่ปิดไม่มีคนดูจนถึงเดือนเมษายน ด้านสหราชอาณาจักรเริ่มออกมาเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปอิตาลี และผู้ที่เดินทางกลับจากอิตาลีจะต้องกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน

หลายรัฐของเยอรมนีประกาศมาตรการควบคุมต่างๆ เช่น ที่แคว้นบาวาเรียสั่งห้ามการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน เดนมาร์กออกคำแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงระบบขนส่งสาธารณะในชั่วโมงเร่งด่วน และสั่งห้ามบินไปยังภาคเหนือของอิตาลี, อิหร่าน และบางพื้นที่ของออสเตรีย เกาหลีใต้ และจีน

นอกจากนี้ สาธารณรัฐเช็กกลายเป็นชาติยุโรปประเทศล่าสุดที่ประกาศปิดโรงแรมทุกแห่ง เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 11 มี.ค. เป็นต้นไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตามหาตัวลูกค้าหลายสิบคนที่ใช้บริการรถ ‘อูเบอร์’ ซึ่งทราบภายหลังว่าคนขับติดเชื้อโควิด-19 ด้วย