ภาพ : University of Sheffield
แบล็ก เดธ (Black Death) หรือ “มรณะดำ” คือการระบาดของกาฬโรคครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ ก่อหายนะต่อประชากรยุโรปตั้งแต่ปี พ.ศ.1889-1896 ส่งผลผู้คนล้มตายไป 75-200 ล้านคน การแพร่ระบาดไปทั่วโลกก็มีต้นตอมาจากหมัดหนูที่ติดอยู่กับตัวหนู ซึ่งพวกมันอาศัยอยู่ใต้ท้องเรือที่เดินทางไปค้าขายยังดินแดนต่างๆ
ล่าสุด นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ ในอังกฤษ รายงานการขุดพบซากโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากในพื้นที่โบสถ์ใหญ่ยุคกลางชื่อธอร์นตัน แอ็บบี้ ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่ที่มณฑลลินคอล์นเชียร์ ทางตะวันออกของอังกฤษ ทีมเผยว่า 48 โครงกระดูกส่วนมากเป็นเด็กและหลุมศพของเหยื่อกาฬโรคที่หายากมาก ดังนั้น การปรากฏตัวของสถานที่ฝังศพขนาดใหญ่ที่มีทั้งชายและหญิงรวมทั้งเด็กๆ บ่งชี้ว่าชุมชนท้องถิ่นถูกกาฬมรณะหยิบยื่นความตายให้ ทว่าสถานพยาบาลในยุคนั้นก็ไม่อาจรับมือกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากมาย
ตัวอย่างฟันจากโครงกระดูกที่พบในธอร์นตัน แอ็บบี้ถูกส่งไปยังมหาวิทยาลัยแม็มมาสเตอร์ในแคนาดา เพื่อสกัดดีเอ็นเอโบราณจากเนื้อเยื่อฟัน การทดสอบดีเอ็นเอชี้ให้เห็นถึงการปรากฏตัวของแบคทีเรียชื่อเยอร์ซีเนีย เพสติส (Yersinia Pestis) ที่มักอาศัยอยู่ในสัตว์ฟันแทะอย่าง หนู กระรอก โดยระบุว่าแบคทีเรียต้นเหตุของกาฬโรคระบาดถึงลินคอล์นเชียร์ในฤดูใบไม้ผลิปีพ.ศ.1892.