สถานการณ์การระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศเกาหลีใต้ก็รุนแรงมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากเมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.) ที่มีผู้ป่วยเพียง 31 ราย กลับพุ่งกระฉูดเป็น 433 รายในวันเสาร์ และส่วนใหญ่พบที่เมืองแทกู เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ทำให้ทางการประกาศว่า นี่คือ ‘super-spreading event’ หรือ ‘เหตุการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ’
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เมืองแทกูถูกปิด ร้านค้าและท้องถนนเปลี่ยวร้าง เพราะประชากรกว่า 2.5 ล้านคนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่คอยเดินฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุข รวมทั้ง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (เคซีดีซี) พยายามตามรอยหาสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสาวไปถึงองค์กรศาสนากลุ่มหนึ่ง ที่ผู้นำอ้างตัวเป็นพระเยซูกลับชาติมาเกิด และคนไข้รายที่ 31 ที่เชื่อกันว่า เป็นสาเหตุของเรื่องนี้
...
*ลัทธิชินชอนจิ ศูนย์กลางการระบาดในแทกู
องค์กรศาสนาดังกล่าวมีชื่อว่า โบสถ์พระเยซู ‘ชินชอนจิ’ ก่อตั้งโดยนาย อี มัน-ฮี ในปี 2527 โดนเขาอ้างตัวว่าเป็นพระเยซูกลับชาติมาเกิด และให้คำมั่นกับสาวกที่ว่ากันว่ามีมากกว่า 144,000 คน จะพาพวกเขาขึ้นสวรรค์เมื่อวันแห่งการพิพากษา หรือ วันสิ้นโลกมาถึง และมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถตีความและเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคัมภีร์ไบเบิลได้
กลุ่ม ชินชอนจิ ซึ่งมักถูกกล่าวหาว่าเป็น กลุ่มลัทธิ เคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ ในเกาหลีใต้มาตลอด แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชื่อ ชินชอนจิ กลับถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เมื่อ เคซีดีซี ยืนยันว่าผู้ป่วยจำนวนมากถึง 231 คนจากทั้งหมด 433 รายที่พบจนถึงวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. เป็นสมาชิกหรือมีความเชื่อมโยงกับสาขาของพวกเขาในเมืองแทกู
เคซีดีซี ระบุอีกว่า ผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับ ชินชอนจิ เริ่มแสดงอาการช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. กับช่วง 14-18 ก.พ. จึงคาดว่าพวกเขาได้รับเชื้อก่อนหน้านั้น และการที่เริ่มแสดงอาการในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า มีการแพร่เชื้ออย่างจำกัดแต่ต่อเนื่อง เกิดขึ้นระหว่างการประกอบพิธีทางศาสนาวันอาทิตย์ หรือระหว่างการรวมตัวกันซึ่งเกิดขึ้นทุกสัปดาห์
นอกจากนี้ ทางการยังสืบจนพบว่า ผู้ป่วยอย่างน้อย 85 รายมีความเชื่อมโยงกับ คนไข้รายที่ 31 ซึ่งเป็นหนึ่งในสาวกที่มาประกอบพิธีกรรมของโบสถ์ชินชอนจิเป็นประจำ รวมถึงสัปดาห์ก่อนเธอจะได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อด้วย
*คนไข้รายที่ 31
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น คนไข้รายที่ 31 เป็นหญิงชาวเมืองแทกู เกิดในปี 2502 โดยเธอเป็นสาวกของลัทธิชินชอนจิ และเข้าร่วมพิธีกรรมที่โบสถ์ในเมืองแทกู ซึ่งเธอต้องนั่งใกล้ชิดกับสาวกคนอื่นๆ มากๆ อย่างน้อย 4 ครั้ง ก่อนที่เธอจะได้รับการวินิจฉัยว่า ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้เธอยังนั่งรถขนส่งสาธารณะเดินทางไปห้างสรรพสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ต่อมาในวันที่ 7 ก.พ. เคซีดีซี ระบุว่า เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ‘ชองโด แทนัม’ ในเมืองแทกู เมื่อ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา และเริ่มมีไข้ในวันที่ 10 รวมทั้งมีสัญญาณของโรคปอดแสดงออกมาในการถ่ายภาพด้วยรังสี แพทย์จึงแนะนำให้เธอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่เธอปฏิเสธ โดยอ้างว่า เธอไม่ได้ไปต่างประเทศเลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน (ไปเมืองอู่ฮั่น) ทำให้เธอรับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเท่านั้น ก่อนออกจากโรงพยาบาล
...
หลังจากออกจากโรงพยาบาล เธอก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ รวมทั้งเข้าร่วมพิธีของโบถส์ชินชอนจิ พร้อมกับสาวกกว่า 460 คน แต่ในวันที่ 17 ก.พ. เธอเดินทางไปยังศูนย์พยาบาลท้องถิ่น และคราวนี้เธอยอมรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลการตรวจที่ออกในวันต่อมา ชี้ว่าเธอติดเชื้อ ทำให้เธอกลายเป็นผู้ป่วยรายที่ 31 ของประเทศ และถูกแยกเดี่ยวจากคนอื่นๆ ทันที
*ผลกระทบจากคนไข้รายที่ 31
1 วันหลังจากที่หญิงคนนี้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เคซีดีซีก็ประกาศพบผู้ป่วยรายใหม่ในเมืองแทกูทันทีถึง 13 ราย และ 11 คนในจำนวนนี้ได้ติดต่อสัมผัสกับคนไข้รายที่ 31 โดย 10 คนติดต่อระหว่างทำกิจกรรมที่โบสถ์ชินชอนจิ ส่วนอีก 1 คนสัมผัสตอนที่เธอเข้าโรงพยาบาล ‘ชองโด แทนัม’ ก่อนหน้านี้
...
หลังจากนั้นโบสถ์ชินชอนจิ และ โรงพยาบาลชองโด แทนัม ก็กลายเป็นแหล่งกระจุกตัวของโรค (cluster) แห่งใหม่ในเมืองแทกู และในเกาหลีใต้ทันที โดยจนถึงวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. พบผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับ โบสถ์ชินชอนจิ แล้ว 231 ราย และพบผู้ป่วยที่โรงพยาบาลชองโดฯ ถึง 111 ราย โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคนไข้รายที่ 31 ถึง 85 คน
แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ทั้ง 2 แห่งอาจเพิ่มขึ้นอีก โดยเคซีดีซี ระบุว่า มีสมาชิกโบสถ์ชินชอนจิถึง 9,336 คนกำลังอย่างระหว่างกักกันตัวเอง และในจำนวนนี้มากกว่า 500 คนกำลังรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา ส่วนที่โรงพยาบาล ชองโด แทนัม ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในแผนกจิตเวช ผู้ป่วยทุกคนในแผนกจะถูกแยกเดี่ยว ใครที่มีอาการของโรคปอดบวมจะถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นทันที
...
*ลัทธิชินชอนจิรับผิด
ด้านสำนักงานของโบสถ์ชินชอนจิ สั่งปิดสถานปฏิบัติธรรมของพวกเขาทั้ง 74 แห่งทั่วประเทศ และบอกให้เหล่าสาวกชมพิธีกรรมผ่านทางยูทูบแทน พวกเขายืนยันว่า ได้ออกคำแนะนำถึงสาวกทุกคนตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมแล้วว่า ให้อยู่แต่ในบ้าน หากรู้สึกว่ามีอาการป่วย
อย่างไรก็ตาม โบสถ์ชินชอนจิก็ยอมรับเรื่องที่คนไข้รายที่ 31 ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการระบาดครั้งนี้ โดยออกแถลงการณ์ขอโทษ ที่หนึ่งสมาชิกทำให้เชื้อแพร่กระจายเพราะคิดว่าเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ทำให้สาวกจำนวนมากติดเชื้อ และสร้างความกังวลแก่สังคมเช่นนี้ และว่าพวกเขากำลังแกะรอยหาสาวกทุกคนที่เคยสัมผัสติดต่อกับหญิงคนนี้ต่อไป