การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยทางการจีนออกมาระบุ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 41 ราย ในมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน 39 ราย, มณฑลเหอเป่ยทางภาคเหนือของจีน 1 ราย และอีก 1 ราย ในมณฑลเหอหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ขณะที่ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกันเป็น 1,320 ราย โดยมีผู้ป่วยในขั้นวิกฤติ 237 ราย

ล่าสุดทางการจีน ได้ส่งแพทย์ทหาร 450 นาย และผู้เชี่ยวชาญ เคยมีประสบการณ์ในการรับมือโรคซาร์ส และอีโบลา เดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นต้นตอการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ 

ขณะที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ได้รวบรวมข้อมูลการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ซึ่งมีการอัปเดตจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิต แยกตามเมืองและประเทศต่างๆ แบบเรียลไทม์ เผยแพร่ทางเว็บไซต์ gisanddata.maps.arcgis.com โดยมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีเมือง “อู่ฮั่น” เป็นเมืองหลวง มีผู้ป่วยติดเชื้อมากสุด 729 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อในจีน 1,320 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อในฮ่องกง มีจำนวน 5 ราย, ไทย 5 ราย, ฝรั่งเศส 3 ราย, มาเลเซีย 3 ราย, สิงคโปร์ 3 ราย, ไต้หวัน 3 ราย, ญี่ปุ่น 2, มาเก๊า 2 ราย, เกาหลีใต้ 2 ราย, สหรัฐฯ 2 ราย, เวียดนาม 2 ราย, ออสเตรเลีย 1 ราย และเนปาล 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 1,354 ราย

...

ทั้งนี้ มาเลเซีย เป็นประเทศล่าสุดในเอเชียที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรก จำนวน 3 คนในรัฐยะโฮ ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวจีน โดยเป็นภรรยาและหลาน 2 คนของชายวัย 66 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในประเทศสิงคโปร์

นางแครี่ หล่ำ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้ประกาศมาตรการฉุกเฉินสูงสุด ควบคุมโรคปอดอักเสบ โดยสั่งปิดโรงเรียนมัธยม ประถม อนุบาล ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.-17 ก.พ. รวม 21 วัน และยกเลิกงานกิจกรรมทั้งหมด ทำให้งานวิ่งมาราธอนรายการใหญ่บนเกาะฮ่องกง ช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. มีนักวิ่ง 70,000 คนเข้าร่วม ต้องยกเลิกกะทันหัน

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลล่าสุดที่น่าตกใจจากผลวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษ สกอตแลนด์ และฟลอริดา ได้คาดการณ์ว่าในอีก 10 วันข้างหน้า หรือต้นเดือนก.พ.นี้ จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สูงมากถึง 250,000-350,000 คนในเมืองอู่ฮั่น.