ฮ่องกงตึงเครียดหนัก ม็อบประท้วงเดือด ต่อต้านรัฐบาลสั่งห้ามผู้ชุมนุมสวมหน้ากาก ทำรถไฟใต้ดินหยุดให้บริการทั้งหมด ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ธนาคารสาขาของจีนบนเกาะฮ่องกงปิดทำการ
เมื่อ 5 ต.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศและรอยเตอร์ เกาะติดสถานการณ์ประท้วงบนเกาะฮ่องกง ที่ยืดเยื้อมานานนับ 4 เดือนและทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า บรรดาผู้ชุมนุม ซึ่งบางคนสวมหน้ากาก ออกมาชุมนุมประท้วงกันอีกครั้ง เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. ต่อต้านคำสั่งของนางแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่ใช้อำนาจพิเศษ ประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉินสมัยอาณานิคมเป็นครั้งแรกในช่วงระยะเวลากว่า 50 ปี
รัฐบาลออกคำสั่งห้ามผู้ชุมนุมสวมหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของตนเอง เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การประท้วงรุนแรง มีการจุดไฟเผาสิ่งของในย่านธุรกิจ และสถานีรถไฟใต้ดิน เกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล ขณะที่ตำรวจได้ใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วงเป็นรายที่2 เป็นเด็กชายวัย 14 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
...
รอยเตอร์แจ้งว่า บริษัทการเดินรถไฟใต้ดิน MTR Corp ประกาศยังคงระงับการให้บริการรถไฟใต้ดินทุกขบวนบนเกาะฮ่องกงทั้งหมดในวันเสาร์ (5 ต.ค.) หลังจากได้หยุดให้บริการรถไฟใต้ดินทั้งหมดมาตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จนทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากติดค้างและต้องเดินกลับบ้าน ขณะที่ปกติแล้ว มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟใต้ดินบนเกาะฮ่องกงมากถึงวันละประมาณ 5 ล้านคน
‘พวกเราไม่อยู่ในจุดที่จะให้ความปลอดภัยและการบริการที่เชื่อถือได้แก่ผู้โดยสารอีกต่อไปท่ามกลางสถานการณ์ในขณะนี้ บริษัทไม่มีทางเลือกจึงขอตัดสินใจระงับการให้บริการรถไฟใต้ดินทั้งหมด’ บริษัท MTR Corp ออกแถลงการณ์ชี้แจง อย่างไรก็ตาม รถไฟใต้ดินสายที่ไปยังสนามบินบนเกาะฮ่องกง Airport Express ซึ่งถือเป็นหนึ่งเส้นทางรถไฟใต้ดินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดสายหนึ่ง จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวันเสาร์ที่ 5 ต.ค.แต่จะวิ่งให้บริการเฉพาะจากสถานี Hong Kong Staion ไป-กลับยังสนามบินเท่านั้น
รอยเตอร์ รายงานด้วยว่า บรรดาช็อปปิ้ง มอลล์ และซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ กว่าสิบแห่ง ที่ฮ่องกง รวมทั้งธนาคารสาขาต่างๆ ของ ธนาคาร Bank of China, Bank of East Asia และ Industrial and Commercial Bank of China ซึ่งตกเป็นเป้าหมายการก่อเหตุรุนแรงของบรรดาผู้ประท้วง ก็ยังคงปิดทำการเช่นกัน ส่วนร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ประกาศจะปิดร้านสาขาต่างๆบนเกาะฮ่องกงในเวลา 17.00 น. ซึ่งการปิดของร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนธนาคารสาขาต่างๆ ถือเป็นมรสุมลูกใหม่ที่กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านค้าปลีกและร้านอาหารบนเกาะฮ่องกง.
ข่าวเกี่ยวข้อง