นักข่าวหญิงอินโดฯ มาติดตามรายงานข่าวม็อบฮ่องกง ประสบเหตุร้ายแรง โดนกระสุนยางของตำรวจยิงใส่ผู้ประท้วง กระสุนยางเข้ากระจกปิดตาแบบเต็มๆ จนทำให้ดวงตาข้างหนึ่งต้องบอดอย่างถาวร
วันที่ 3 ต.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศและบีบีซีรายงานเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจ นางสาว เวบี มีกา อินดาห์ นักข่าวหญิงชาวอินโดนีเซียซึ่งเดินทางไปติดตามรายงานข่าวการประท้วงบนเกาะฮ่องกง ประสบเหตุร้ายโดนกระสุนยางที่ตำรวจปราบจลาจลฮ่องกงยิงใส่ผู้ชุมนุมประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ดวงตาข้างหนึ่งของเธอต้องบอดอย่างถาวร ถึงแม้นางสาวอินดาห์ได้สวมหมวกนิรภัยติดกระจกป้องกันใบหน้า-ดวงตาแล้วก็ตาม
บีบีซี เผยว่า จากคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพเหตุการณ์ตำรวจปราบจลาจลยิงกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงและนักข่าวที่อยู่บนสะพานลอยคนข้ามเชื่อมระหว่างอาคารสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กับสถานีรถไฟฟ้าMTR Wan Chai (หวั่น จ๋าย) ในเขตหวั่น จ๋าย เมื่อ 29 ก.ย. ขณะที่ผู้ชุมนุมได้ก่อเหตุรุนแรง ขว้างปาระเบิดเพลิง และยังโยนเสาธง ปาก้อนหินใส่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความไม่พอใจ
...
นายไมเคิล วิดเลอร์ ทนายความของนางสาวอินดาห์เผยว่า กระสุนยางนัดหนึ่งได้พุ่งใส่กระจกปิดตาของนักข่าวหญิงอินโดนีเซียคนนี้ที่อยู่บนสะพานลอยคนข้ามถนน ห่างจากแถวของตำรวจประมาณ 12 เมตร เป็นเหตุให้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอได้รับบาดเจ็บ จากนั้นทีมกู้ภัยได้รีบนำนางสาวอินดาห์ส่งโรงพยาบาล ก่อนต่อมา คณะแพทย์ได้ยืนยันเมื่อวันพุธที่ 2 ต.ค.ว่า ดวงตาข้างหนึ่งของนางสาวอินดาห์ต้องบอดอย่างถาวร
ทั้งนี้ นางสาวอินดาห์ ทำงานอยู่ที่หนังสือพิมพ์อินโดนีเซีย ‘Suara’ โดยเธอได้สวมเสื้อเกราะและสวมหมวกนิรภัยที่ติดป้ายชัดเจนว่า ‘สื่อมวลชน’ ขณะติดตามรายงานข่าวเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงและจีน ที่ดำเนินต่อเนื่องมานานนับ 4 เดือน โดยอินดาห์อ้างว่ามีนักข่าวอีกคนตะโกนบอกตำรวจปราบจลาจลว่า ‘อย่ายิง เราเป็นนักข่าว’ ก่อนที่ไม่นานเธอจะถูกกระสุนยางเข้าที่กระจกปกป้องดวงตา
หลังเกิดเหตุร้ายแรงกับนักข่าวหญิงอินโดนีเซียแล้ว สถานกงสุลอินโดนีเซียประจำฮ่องกงได้แจ้งเตือนประชาชนชาวอินโดนีเซียให้หลีกเลี่ยงบริเวณย่านหวั่น จ๋าย และพื้นที่อื่นๆ บนเกาะฮ่องกงที่เกิดเหตุชุมนุมประท้วง
ขณะที่เอนิส ฮิดายาห์ ผู้อำนวยการองค์กรไม่แสวงกำไร (NGO) ‘Migrant Care’ (ดูแลผู้อพยพ) กล่าวกับนสพ.จาการ์ตา โพสต์ว่า รัฐบาลฮ่องกงควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางสาวอินดาห์ และรัฐบาลอินโดนีเซียได้สั่งผ่านสถานกงสุลอินโดนีเซียประจำฮ่องกงให้ดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้
ข่าวเกี่ยวข้อง