หัวเว่ยเจอศึกหนัก บริษัทกูเกิล ขานรับนโยบายทรัมป์ ประกาศระงับมือถือหัวเว่ย อัปเดตระบบแอนดรอยด์ใหม่ของกูเกิลที่จะเริ่มปลายปีนี้ ทำให้มือถือหัวเว่ยจะเข้าถึงแอปฯ ยอดนิยมบางอย่างของกูเกิลไม่ได้

เมื่อ 20 พ.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศ และบีบีซี รายงานว่า กูเกิล บริษัทให้บริการเสิร์จเอนจินอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีฐานในสหรัฐฯ ขานรับนโยบายรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มตัดสัมพันธ์ทางการค้ากับหัวเว่ย ด้วยการระงับสมาร์ทโฟน หัวเว่ย ในการอัปเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ใหม่ของกูเกิล ที่จะเริ่มในปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้มือถือหัวเว่ย ไม่อาจเข้าถึงแอปพลิเคชันบางอย่างของกูเกิล รวมทั้ง YouTube, Maps และ Google Playstore (กูเกิล เพลย์ แอป สโตร์) 

ซีเอ็นเอ็น ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวของกูเกิล ‘อาจแค่ต้องการฆ่าความพยายามของหัวเว่ยในการกลายเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์อันดับ 1 ของโลก’ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกูเกิล มีขึ้นหลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่งประกาศขึ้นบัญชี หัวเว่ย สมาร์ทโฟนรายใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จากจีน อยู่ในรายชื่อบริษัทที่บริษัทอเมริกันไม่สามารถค้าขายทำธุรกิจด้วย หากไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาล เมื่อวันพุธที่ 15 พ.ค.62 โดยต่อมา ทางโฆษกบริษัทกูเกิลได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ค.62 ว่า ‘พวกเรากำลังปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวและศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา’

...

บีบีซี รายงานว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยในขณะนี้ยังสามารถอัปเดตแอปต่างๆ ของกูเกิล และระบบความปลอดภัย รวมถึงการให้บริการ Google Play ได้ตามปกติ แต่หลังจากกูเกิลเริ่มใช้เวอร์ชั่นของระบบแอนดรอยด์ใหม่ในปลายปีนี้แล้ว ทำให้อุปกรณ์หัวเว่ย  ไม่สามารถเข้าถึงแอปฯ บางอย่างของกูเกิลได้ อย่างเช่น ยูทูบ และ Maps โดยหัวเว่ยจะสามารถใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในเวอร์ชั่นสาธารณะได้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ด้านบริษัทหัวเว่ย ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ค.ว่า ทางหัวเว่ยยังคงดำเนินการอัปเดตด้านความปลอดภัยและการให้บริการต่างๆ แก่สมาร์ทโฟนรวมทั้งแท็ปเล็ตของหัวเว่ยต่อไป ทว่าไม่ได้ชี้ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการขายมือถือหัวเว่ยในอนาคต ในขณะที่ไม่อาจเข้าถึงระบบให้บริการยอดนิยมของกูเกิล รวมทั้ง Gmail YouTube และ Chrome ได้อีกต่อไป หากไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษจากรัฐบาลสหรัฐฯ.