WhatsApp รับพบจุดอ่อนในระบบปลอดภัยของแอปฯ ทำให้โดนแฮกเกอร์โจมตีด้วยการส่งสปายแวร์สอดแนมผ่านการโทรเข้ามือถือของผู้ตกเป็นเป้าหมาย เรียกร้องให้ผู้ใช้แอปฯ 1.5 พันล้านคนทั่วโลกอัพเดทแอปฯด่วน
เมื่อ 14 พ.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอปพลิเคชัน ‘WhatsApp’ ของเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมที่สุดของโลก ออกมาเรียกร้องให้ผู้ใช้แอปพลิเคชัน WhatsApp จำนวน 1,500 ล้านคนทั่วโลก ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ iOS อัพเดทแอปฯ และควรเพิ่มความระมัดระวังด้านความปลอดภัย
โฆษกของ WhatsApp ออกแถลงการณ์ว่า พบจุดอ่อนหรือความเปราะบางอย่างหนึ่งในระบบของแอปฯ WhatsApp อาจทำให้แฮกเกอร์โจมตี เข้ามาติดตั้งโค้ดอันตราย (malicious code)ซอฟต์แวร์สอดแนมจากทางไกลในอุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ที่ตกเป็นเหยื่อด้วยการโทรหาเป้าหมายด้วยแอปฯนี้ และสามารถอ่านข้อความผู้ใช้แอปพลิเคชันได้สำเร็จ ในขณะที่ทาง WhatsApp ระบุว่าได้แก้ไขซ่อมแซมข้อบกพร่องนี้แล้ว

...
‘การโจมตีด้วยวิธีนี้เป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรายงานว่าได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลในการส่งสปายแวร์เข้าไปติดตั้งในระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์’ โฆษกของ WhatsApp กล่าวในแถลงการณ์ ทว่าไม่ได้ระบุว่าบริษัทเอกชนที่กล่าวถึงคือบริษัทใด
ขณะที่ ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนเกี่ยวกับการโจมตีของแฮกเกอร์ ระบุ บริษัทดังกล่าวคือ บริษัท NSO Group ซึ่งเป็นบริษัทด้านไซเบอร์ในอิสราเอล ซึ่งมีการพัฒนาออกแบบชิ้นส่วนของมัลแวร์ที่มีประสิทธิภาพในการส่งไปล้วงข้อมูลของผู้ตกเป็นเป้าหมาย

ส่วนบีบีซี เผยด้วยว่า ไฟแนนเชียล ไทมส์ เป็นสื่อแห่งแรกที่รายงานเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อบกพร่องในเรื่องนี้ของ WhatsApp และระบุด้วยว่าการโจมตีระบบติดตามความปลอดภัยของ WhatsApp ถูกพัฒนาโดยบริษัท NSO ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ โดยพบผู้ใช้ที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีรายแรกเมื่อต้นเดือนพ.ค.62.