ในวันนี้และวันพุธที่ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ เพราะญี่ปุ่นกำลังจะผลัดแผ่นดินก้าวเข้าสู่รัชสมัยใหม่ ท่ามกลางความตื่นเต้นของคนญี่ปุ่นจำนวนมาก เพราะพวกเขาเชื่อว่า รัชสมัยใหม่จะมาพร้อมกับชีวิตใหม่ที่สดใส
วันอังคารที่ 30 เม.ย. 2562 จะเป็นวันสุดท้ายของรัชสมัย “เฮเซ” ของญี่ปุ่น เพราะเมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ญี่ปุ่นจะเข้าสู่รัชศก “เรวะ” พร้อมๆ กับมกุฎราชกุมารนารุฮิโตะ ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นพระองค์ใหม่
โดยตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเชิงพิธีกรรมหลายครั้ง โดยเฉพาะในครั้งล่าสุดที่ปรากฎต่อสาธารณชน คือเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา พระองค์เสด็จไปยังศาลเจ้าใหญ่อิเซะเพื่อทรงประกอบพิธีถวายรายงานแด่เทพเจ้า
พระราชพิธีนี้กลายเป็นที่สนใจในสังคมญี่ปุ่น เพราะมีการอัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ชิ้นสำคัญของชาติ โดยเฉพาะพระแสงดาบและลูกปัดหยกที่ถูกนำมาประกอบพิธีร่วมกับคันฉ่องที่เก็บรักษาอยู่ในศาลเจ้า เพราะเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่เป็นพระแสงดาบกับลูกปัดหยกเป็นสิ่งของที่เต็มไปด้วยตำนานกล่าวขานมาอย่างยาวนาน แม้ในพิธีครั้งนี้โบราณวัตถุทั้งสองชิ้นจะถูกเก็บในถุงผ้าลายดอกเบญจมาศ แต่ก็ถือเป็นภาพที่หาชมได้ยากยิ่ง
ขณะที่ชาวญี่ปุ่นตอนนี้เริ่มซึมซับการเข้าสู่รัชศกใหม่แล้ว อย่างน้อยคนญี่ปุ่นทุกคนก็กำลังอยู่ในช่วง “โกลเด้น วีค” ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาว 10 วัน มาตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม แต่ดูเหมือนคนญี่ปุ่นจะไม่มีความสุขเท่าไหร่กับวันหยุด เนื่องจากทำให้หลายคนขาดรายได้ และอาจเผชิญกับความไม่สะดวกหลายอย่างจากวันหยุดยาวนี้
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีนักธุรกิจหลายคนมองเห็นโอกาสจากวาระสำคัญในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นนี้ เพราะการก้าวเข้าสู่รัชสมัยใหม่คือการเปลี่ยนแปลง ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลพลอยได้ เช่นธุรกิจปฏิทิน หรือผู้ประกอบการเกี่ยวกับตราประทับ ที่กำลังเดินเครื่องผลิตตราประทับข้อความ “เรวะ” ซึ่งเป็นชื่อรัชสมัยใหม่ส่งขายให้กับบริษัทห้างร้านต่างๆ
...
เพราะแม้ในปัจจุบันญี่ปุ่นจะหันใช้การนับวันเวลาตามรูปแบบสากลนิยมมากขึ้น แต่ธรรมเนียมการนับวันเดือนปีแบบดั้งเดิม ซึ่งใช้ชื่อรัชศกระบุปียังคงเป็นที่นิยมใช้ในเอกสารต่างๆ อยู่
แต่อีกธุรกิจหนึ่งที่กำลังเฟื่องฟูจากการเปลี่ยนรัชสมัยอย่างไม่น่าเชื่อกลับเป็นธุรกิจแต่งงาน ยิ่งเมื่อเจ้าของกิจการอัดฉีดโปรโมชั่นส่งท้ายรัชสมัยเฮเซแล้วยิ่งกระตุ้นให้หลายคู่จัดพิธีวิวาห์ส่งท้ายรัชสมัยมากขึ้น เพราะนอกจากราคาโปรโมชั่นจะลดค่าใช้จ่ายไปได้มากแล้ว หลายคู่ยังอยากมีความทรงจำร่วมกันด้วยการแต่งงานในรัชสมัยเฮเซ และมีชีวิตใหม่พร้อมๆ กับรัชสมัย "เรวะ" รัชสมัยใหม่ที่ทุกคนหวังว่า จะนำความสดใส ราบรื่นยิ่งกว่ารัชสมัยเดิม