ตำรวจชิลี บุกจับกุมชายวัย 29 ปี โทรขู่วางระเบิดเที่ยวบินถึง 11 เที่ยว จนต้องลงจอดฉุกเฉิน และบินกลับสนามบิน ทั้งในชิลี เปรู และอาร์เจนตินา เผยผลสอบสวนขั้นต้น โกรธสายการบินไม่คืนกระเป๋าเดินทาง

เมื่อ 18 ส.ค. เว็บไซต์ วอชิงตันโพสต์ และสำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ตำรวจหน่วยปราบปรามพิเศษอาชญากรรมของชิลีบุกจู่โจม เข้าจับกุมชาย อายุ 29 ปี ที่เมืองอันโทฟากัสตา ทางภาคเหนือของประเทศชิลี เมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ที่ 17 ส.ค. หลังสร้างความปั่นป่วนโกลาหลเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการโทรศัพท์ขู่วางระเบิดเครื่องบินโดยสารถึง 11 เที่ยวบินของสายการบิน ลาแทม (LATAM) และสกาย แอร์ไลน์ส (SKY Airlines) จนต้องปฏิบัติการตามมาตรการฉุกเฉิน โดยมีบางเที่ยว ต้องลงจอดฉุกเฉิน รวมทั้งต้องบินกลับมายังสนามบินเดิม และมีบางเที่ยวถึงปลายทางแล้ว หรือบางเที่ยวต้องหยุดขึ้นบินทั้งในชิลี เปรู และอาร์เจนตินา 

เว็บไซต์ วอชิงตันโพสต์ ระบุว่า ชายวัย 29 ปีที่ถูกจับในครั้งนี้ ชื่อนายฟรังโก เซปุลเวดา โรเบลส โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชิลีได้บุกจับกุมตัวได้ หลังติดตามหาตำแหน่งจากสัญญาณโทรศัพท์ที่เขาโทรไปขู่วางระเบิดเครื่องบิน โดยผู้บัญชาการตำรวจชิลี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในชั้นต้น ทราบว่าสาเหตุที่นายโรเบลสโทรศัพท์ไปขู่วางระเบิดสายการบิน ลาแทม นั้นเป็นเพราะโกรธทางสายการบินที่ไม่ยอมส่ง กระเป๋าเดินทางคืนมาให้เขา หลังจากได้เคยขึ้นเครื่องบินโดยทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ ซึ่งนับแต่นั้น นายโรเบลสก็ได้ก่อความรำคาญให้กับทางบริษัทสายการบิน จนกระทั่งโดนจับกุมเพราะโทรศัพท์ขู่วางระเบิด จนทำให้ผู้โดยสารจำนวนหลายร้อยคนได้รับความเดือดร้อน

...

ข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโรเบลสมาขึ้นศาลดำเนินคดีในกรุงซานติเอโก เมื่อบ่ายวันศุกร์ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เขาเข้าใกล้สนามบินทุกแห่งในประเทศ ขณะที่ รมว.มหาดไทยเผยว่า นายโรเบลสอาจถูกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคง และเผชิญกับโทษจำคุกนานถึง 5 ปี