อาจจะเป็นเพราะขวบปีที่ผ่านมา ชาวจีนมาเที่ยวเมืองไทย 9,805,753 คน ทำรายได้ให้ประเทศไทยมากถึง 524,451 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันทุกวันนี้ คนไทยสนใจจีนมากขึ้น ที่คนไทยส่วนหนึ่งนำไปวิพากษ์วิจารณ์กันต่อในโซเชียลมีเดีย ก็มักจะเป็นข้อเขียนเปิดฟ้าส่องโลกที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับจีน และหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ ชนกลุ่มน้อยของจีนที่มีมากถึง 55 กลุ่ม

นักเรียนไทยมักจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ชิงหัว หรือไม่ก็ไปเข้ามหาวิทยาลัยทางภาคใต้ แต่มหาวิทยาลัยที่มีการทำนายทายทักกันว่า ต่อไปในอนาคตจะสำคัญเป็นอันดับหนึ่งทางด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนคือ Nationalities University หรือมหาวิทยาลัยชนชาติของประเทศจีน เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่รวบรวมข้อมูลของชนกลุ่มน้อยทั้ง 55 กลุ่มของจีนได้อย่างละเอียดที่สุด ทั้งทางด้านชื่อเรียก ถิ่นที่อยู่ ภาษา ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีชีวิต ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว

ที่ผมเรียนไปในครั้งก่อนตอนที่เขียนถึงชนกลุ่มน้อยในจีนว่า กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของจีนเกือบทุกแห่ง จะมีบริษัทในเครือให้บริการด้านการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ อาจจะเป็นเพราะจำนวนประชาชนที่มีเป็นพันล้านที่สามารถอำนวยเม็ดเงินก้อนใหญ่มาก ต่อไปในอนาคต เมื่อจีนมีนวัตกรรมล้ำสมัย ใช้ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์ มนุษย์ก็จะมีเวลาว่างมากขึ้น คนมีเวลาว่างมากก็ต้องท่องเที่ยว ไม่เช่นนั้นชีวิตก็คงจะเงียบเหงาเฉาตาย

โชคดีที่ชนกลุ่มน้อยในจีนทั้ง 55 กลุ่มยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของตัวเองไว้ได้อย่างเข้มงวด ทำให้มีความหลากหลายและเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว ขณะที่เขียนคอลัมน์รับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่ในขณะนี้ ผมอพยพครอบครัวทั้งหมดมาลงหลักปักฐานในประเทศจีนได้นานแล้ว ลูกชายทั้งสองของผมก็ใช้ภาษาจีน อังกฤษ และไทย เป็นภาษาที่หนึ่ง สอง และสาม ตามลำดับ

...

คนจีนจะตื่นเต้นมาก เมื่อมีใครพูดถึงวัฒนธรรมประเพณีแปลกที่อยู่ในแผ่นดินจีน เช่นเมื่อใครได้ไปแถวลี่เจียง ปี้เจียง ป่าวซาน หนานหัว หยวนเจียง คุนหมิง อานหนิง และในเขตอำเภอปี้เจี๋ยของเมืองกุ้ยโจว อำเภอเหลียงซานของมณฑลเสฉวน อำเภอซางจื๋อของมณฑลหูหนาน พรรคพวกเพื่อนฝูงก็จะถามถึงอาหารที่คนป๋ายในเมืองพวกนี้ใช้เนื้อสดมาปรุง คนที่ได้ไปก็จะถ่ายภาพส่งมาลงอวดในโซเชียลมีเดีย เป็นภาพเนื้อหั่นเป็นฝอย คลุกขิงซอย กระเทียม และน้ำส้ม

ใครได้มีโอกาสได้ไปปฏิบัติภารกิจที่เขตปกครองตนเองเผ่าป่าวอาน เผ่าตงเซียง เผ่าลาซา ในหุบเขาจีสือ พรรคพวกก็จะมีข้อความมาขอให้ซื้ออาหารของชนกลุ่มน้อยเผ่าป่าวอานมาฝาก ซึ่งเป็นพวกหม่านโถว เส้นหมี่ หมี่ทอด ขนมแป้งทอด ที่เอาข้าวโพดหรือข้าวสาลีมาแปรรูป

คนที่มาทำงานหรือมาเรียน โดยไม่ได้ใช้ชีวิตในครอบครัวคนจีน ก็ยากที่เข้าใจในสิ่งที่อยู่ใต้สมองของคนจีนที่แท้จริง หรือแม้แต่คนที่ถือสัญชาติจีนด้วยกัน ก็ยังดูคนในเขตที่ผมเอ่ยไปในต้นบทความนี้ว่าแปลก ที่ไม่ใช่มุสลิม ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็จะกินแต่เนื้อแกะ เนื้อวัว โดยไม่กินหมู ไม่กินสัตว์ป่า ไม่กินเลือดสัตว์ ตามแบบผู้คนที่นับถือศาสนาอิสลาม

รายการโทรทัศน์ของจีนเต็มไปด้วยประเพณีวัฒนธรรมแปลกๆ ที่เพิ่งดูคลิปจบไปในวันก่อน ก็เป็นการแต่งงานของคนจีนเผ่าทาทาร์ ที่หลังจากแต่งงานแล้ว ฝ่ายชายจะต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านของฝ่ายหญิงกระทั่งมีลูกคนที่หนึ่งแล้ว จึงจะย้ายออกได้

คนจีนสนใจอาหารของชนอื่น ใครไปดินแดนของพวกทาทาร์ จะต้องซื้ออาหารที่ทำจากแป้งคลุกกับไข่ไก่ และเค้กที่ทำจากเนย ถั่ว ข้าว ฟักทอง เนื้อ ที่คลุกจนเข้าเพื่อเอามาฝากกัน

ที่เขียนรับใช้ในวันนี้ เป็นเรื่องสำคัญต่อการท่องเที่ยวครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com